รีทัชเนียนเกิน! จบดราม่า “ยักษ์สวมหน้ากาก” พระนึกว่าปีนรูปปั้น ช่างภาพหวิดโดนคดีอาญา
จากกรณี กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Chub Nokkaew หรือ ชุบ นกแก้ว ช่างภาพฝีมือรางวัลระดับโลก อย่างคานส์และผู้ก่อตั้ง Chubcheevit studio โพสต์ภาพชุดตัดต่อรูปปั้นยักษ์สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่แพร่กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพ รูปภาพดังกล่าวได้รับการแชร์ต่ออย่างแพร่หลาย ต่อมามีกระแสข่าวจากเจ้าตัวว่าถูกฟ้องและต้องไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ล่าสุด “คุณชุบ นกแก้ว” โพสต์ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ขอบคุณทุกๆ ความเป็นห่วง เคลียร์แล้วนะครับเรื่องภาพชุดดังกล่าว ประเด็นไม่มีอะไรเลย เป็นการเข้าใจผิดกัน มีคนเห็นภาพแล้วคิดว่าผมปีนขึ้นไปติดหน้ากากอนามัยจริงๆ ซึ่งถือว่าเป็นการลบหลู่สถานที่ สำคัญๆ ต่างๆ
เลยถือโอกาสชี้แจงไปแล้วว่ามันเป็นถ่ายภาพแล้วนำมารีทัชเท่านั้น ทางตำรวจ สน.บางกอกใหญ่ก็น่ารัก เขาทำตามหน้าที่ตามที่มีคนแจ้งมา เราก็เข้าไปชี้แจงถึงเจตนารมณ์ไป ตำรวจก็พาไปที่วัดอรุณ ไปเล่าเจตนาในการทำภาพนี้ขึ้นมาให้กับทางวัดได้ฟังและยืนยันว่าเราไม่ได้ปีนจริงๆ พระท่านยังพูดขึ้นมาว่า เมื่อเช้ายังโกรธ รปภ.เลย ว่าปล่อยให้ปีนขึ้นไปได้อย่างไร โยมทำเนียนไป
ท่านก็เข้าใจถึงเจตนาดีที่เราทำเสื่อเพื่อให้คนในสังคมตระหนักรู้ ถึงพิษภัยฝุ่น PM 2.5 แล้วท่านแนะนำให้ไปโพสน์ชี้แจงขั้นตอนการทำงานซะหน่อยว่าก่อนจะเป็นภาพว่าโยมแค่ถ่ายรูปแล้วเอามารีทัชให้ประชาชนเห็นภาพและเข้าใจง่ายๆ ท่านยังชี้แนะอีกว่า วันนี้อากาศดีขึ้นแล้ว ก็ทำภาพให้สดใสน่ามาเที่ยวหน่อย ท่านพระคุณเจ้าผมเรียกไม่เป็นนะ ผมว่าท่านมีวิสัยทัศน์มาก
และก็ต้องกราบขอโทษในสถานที่ต่างๆ ที่ผมไปถ่ายทำโดยที่อาจจะคิดแค่ในมุมของศิลปะ คิดแค่เจตนาดีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องคิดหลายๆด้านหลายมุมหน่อย งดดราม่านะครับจบแบบนี้ประเทศไทยน่าอยู่กว่าที่เราคิดเยอะเลย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ด้าน พ.ต.อ.จารุภัชร ทองโกมล ผกก.สน.บางกอกใหญ่ กล่าวว่า ภายหลังจากที่วัดอรุณฯ ทราบเหตุดังกล่าวจึงได้ประสานมายังตำรวจเพื่อช่วยเป็นตัวกลาง เรียกตัวนายชุบเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริง เนื่องจากทางวัดเล็งเห็นว่าการนำภาพดังกล่าวไปใช้นั้นไม่ได้ขออนุญาต และยังถูกมองว่าไม่เหมาะสมเท่าไหร่หากจะเป็นการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ อาจนำความเสียหายมาสู่ภาพลักษณ์ของวัดได้ จึงเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทคดีอาญา
พ.ต.อ.จารุภัชร กล่าวต่อว่า เมื่อทราบว่าเป็นการนำรูปมารีทัชเสมือนจริง ไม่ได้ขึ้นไปปีนป่ายตามที่วัดอรุณฯ ขณะที่นายชุบเอง ก็ยอมรับผิดจริงจึงได้เข้าชี้แจงกับทางวัดและขอขมา ซึ่งทางวัดก็ให้อภัย จึงถือเป็นอันจบ ด้านตำรวจก็ทำการสอบสวน และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใดทั้งนี้เมื่อปลายปี 2561 เคยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถ่ายภาพโป๊เปลือยกับวัตถุทางวัฒนธรรมมาแล้ว ซึ่งได้ถูกดำเนินคดีฐานกระทำอนาจาร มีโทษเปรียบเทียบปรับสูงสุด 5,000 บาท
ขอบคุณภาพจาก : Chub Nokkaew
