จากบั้งไฟพญานาคที่ สมภพ ขำสวัสดิ์ ได้ท้าพิสูจน์ ด้วยการถ่ายภาพเพื่อพิสูจน์วิถีของสิ่งที่เกิดขึ้นว่าไม่ได้เกิดจากปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติแต่อย่างใด ซึ่งครั้งนี้ สมภพ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ว่า จะไปขอพิสูจน์ตำนานหินลอยได้ ที่เขาคิชฌกูฏ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ประชาชนจำนวนมากขึ้นไปสักการะ โดยจะใช้เส้นด้ายลอดผ่านใต้หิน เพื่อพิสูจน์ความเชื่อดังกล่าว ซึ่งพบว่า บริเวณฐานหินผู้ที่ขึ้นไปสักการะ นิยมนำเทียนไปค้ำไว้

โดยนายสมภพ ได้ระบุว่า “ประกาศชวนร่วมพิสูจน์ หินลอยได้ ที่เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เพื่อเป็นเพื่อนร่วมทริป หรือไทยมุง หรือเป็นสื่อช่วยถ่ายวีดีโอการพิสูจน์ของผมหนะนะครับ ขยายความคำว่า หินลอยได้ ในที่นี้คือ ตามตำนานเชื่อว่าลอยได้เพียงเล็กน้อย สามารถเอาเส้นด้ายลอดผ่านใต้หินไปได้ การพิสูจน์จึงอยู่เพียงแค่นั้น แต่ปัญหาคือหินยักษ์นี้ตั้งอยู่หมิ่นหน้าผา คนไม่สามารถเดินรอบๆได้ ผมเคยปวดหัวกับปัญหานี้มาหลายปีแล้ว

 

แต่ปัจจุบันนี้ผมมีโดรนแล้ว เป็นสมบัติที่เกิดมาจากเรื่องบั้งไฟพญานาคเป็นสำคัญ นึกไม่ถึงว่ามันจะมีประโยชน์ครอบคลุมมาได้อีกหลายเรื่อง คุ้มจริงๆ ผมจึงจะใช้โดรนช่วยโยงเส้นด้ายอ้อมหินฝั่งที่เป็นหน้าผาเพื่อนำปลายเส้นด้ายกลับมา วิธีพิสูจน์นี้ผมจึงออกแบบสำหรับการทำคนเดียวได้ แต่ขาดคนถ่ายวีดีโอเท่านั้น

เออ มันทดลองยากขนาดนี้ แล้วสมัยปู่ย่าตายายที่อ้างว่าเคยทดลองแล้ว เค้าทำยังไงนะ ?
(หลังๆผมเริ่มมีอคติกับคำบอกเล่าของปู่ย่าตายายหลายเรื่องแล้วหละ -_- )

 

แต่ปัญหาอีกอย่างของการพิสูจน์คือ จะมีธูปของสาธุชนเข้าไปค้ำอยู่ที่โคนหิน เป็นอีกอุปสรรค์กรีดขวางเส้นด้าย แต่ปัญหานี้ผมคิดวิธีแก้ไว้แล้ว ออกจะทุลักทุเลหน่อย

 

การพิสูจน์เรื่องใดๆของผมก็ตาม จะไม่เป็นไปเพื่อลบหลู่ใดๆทั้งสิ้น จะไม่สร้างความเสียหายแก่สถานที่ และจะปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด ส่วนธูปของสาธุชน แม้คงจะไม่มีคำแนะนำใดๆให้เอาไปไว้อย่างงั้น ไม่รู้แต่ละคนนำไปค่ำไว้ด้วยเจตนาใด ผมก็จะไม่ไปแตะต้อง แต่มือและแขนผมอาจไปโดนบ้างขณะพยายามเดินเส้นด้ายด้วยความทุลักทุเล :P

การไปของผมจะต้องคุ้มค่าแก่ตัวเอง นอกจากพิสูจน์แล้วผมจึงต้องทำบุญขอพรตามความเชื่อเป็นธรรมดา แต่น่าจะทำบุญขอพรก่อนการพิสูจน์ เพราะกลัวผลการทดลองมาบั่นทอนกำลังใจ ฮ่าๆๆๆๆๆ

 

จากการค้นข้อมูลเพิ่มเติมของที่นี่ อาจมีความเข้าใจผิดหรือเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับก้อนหินก้อนไหนกันแน่ที่ว่าลอย โดยกระแสหลักเหมือนโฟกัสที่หินยักษ์ก้อนนี้ แต่เมื่อหาข้อมูลไปพบว่ายังมีพูดถึงหินอีกก้อนที่ชื่อว่า “หินบาตรพระโมคคัลลา” ต่างหากที่ว่าลอย อยู่ในเขตอุทยานเขาคิชฌกูฏเหมือนกัน เดี๋ยวจะโพสรูปในคอมเม้นท์ ดังนั้นเพื่อลดความสับสน ผมจะทำการทดลองเอาเส้นด้ายลอดกับหินทุกๆก้อนที่เชื่อว่าลอยได้ของที่นี่เลยครับ

 

กำหนดวันไป ยอมรับว่ายังไม่ได้วันที่แน่นอน แต่อยากให้เป็นวันธรรมดาเพื่อให้คนน้อยๆ และเป็นวันธรรมดาที่ติดวันหยุด เลยหนีไม่พ้นวันศุกร์ และเล็งศุกร์ที่ 3 มี.ค. 60 เอาไว้ (หรือช้ากว่านั้นแต่ต้องก่อนอุทยานปิด 28 มี.ค. 60) การเดินทาง โดยส่วนตัวผมคำนวณไว้แล้วว่าสามารถไปเช้าเย็นกลับได้ จะได้ไม่ต้องไปค้างที่ไหน ส่วนเพื่อนร่วมทริปหากมาจากที่อื่นไว้ว่ากันทีหลัง ชวนคุณยุทธจักรไปถ่ายทำคนนึงละ แต่กลัวเฮียติดขัด เลยชวนคนอื่นเผื่อๆด้วยครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน