กลับมาอีกครั้ง! โครงการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ครั้งที่2 “THAIHEALTH INNO Awards 2019” โดย สสส. มุ่งผลิตนวัตกรรุ่นใหม่ ม.ปลาย-ปวช. กระตุ้นไอเดียสร้างสรรค์ผลงานลดพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพ ส่งเสริมคนไทยมีสุขภาพดี ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 200,000 บาท

วันที่ 13 พ.ค. ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนงานนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงโครงการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ครั้งที่ 2 ว่า สสส. เชื่อในพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ จึงจัดโครงการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ (THAIHEALTH INNO Awards) เพื่อเปิดโอกาสให้กับเยาวชนที่กำลังศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และอาชีวศึกษาในระดับ ปวช. สร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ในรูปแบบแนวคิดหรือสิ่งประดิษฐ์ที่ผสมผสานความสร้างสรรค์บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่มาพร้อมโจทย์ลดพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพ หรือส่งเสริมให้คนมีสุขภาพดีทั้งสุขภาพกาย จิตใจ ปัญญา และสังคม โดยมีเงินรางวัลรวมมูลค่า 200,000 บาท พร้อมโล่และประกาศนียบัตรมอบให้

“ในปีนี้การประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพแบ่งออกเป็น 2 ระดับ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และอาชีวศึกษา ปวช. แต่ละระดับที่เข้ารอบ 10 ทีมสุดท้าย จะได้ประสบการณ์ครั้งสำคัญจากการเข้าร่วมกิจกรรม Workshop บ่มเพาะความรู้ในการเป็นนักนวัตกรรุ่นใหม่ โดยมีพี่เลี้ยงเป็นบุคคลชั้นนำของประเทศในด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ และจะได้รับทุนสนับสนุนอีกทีมละ 10,000 บาท เพื่อนำไปพัฒนาชิ้นงานให้เกิดขึ้นจริง” ดร.ณัฐพันธุ์ กล่าว

สำหรับตัวอย่างผลงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ จากการประกวดในปี 2561 ระดับมัธยมศึกษา ผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศคือ ทีม WS Stable Inno จากโรงเรียนวชิรวิทย์ จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยผลงานโครงงานนวัตกรรม “npk easy” ที่สร้างนวัตกรรมด้านกระบวนการแก้ปัญหาชุมชน ทั้งปัญหาโภชนาการ อาหารปนเปื้อนสารเคมี มลพิษที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจจากการลักลอบเผาเศษใบไม้ และส่งเสริมการสร้างรายได้ในชุมชน ส่งเสริมการเกษตรปลอดสารเคมีและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เช่น จิ้งหรีดแช่แข็ง ปุ๋ยมูลไส้เดือน ผักสลัดปลอดสาร ทั้งหมดนี้ใช้วิธีการดึงเอาทรัพยากรและคนในชุมชนเข้ามาร่วม เพื่อให้คนในชุมชนมีสุขภาพดีและพัฒนาให้ชุมชนหนองป่าครั่งเกิดความยั่งยืน

ระดับอาชีวศึกษาผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ “ทีมสี่สหาย-สายช่าง” จากวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยโครงงานนวัตกรรม “เสาหลักนำทางจากยางพารา” ที่พัฒนาเสาหลักกิโลเมตรและเสากั้นโค้งที่สร้างขึ้นจากยางพารา เพื่อลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ พร้อมทั้งติดตั้งระบบเตือนภัยและ GPS ที่สามารถแจ้งเหตุและส่งพิกัดสถานที่เกิดอุบัติเหตุผ่านแอปพลิเคชั่น LINE มายังศูนย์กู้ภัยเพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที และยังช่วยตอบโจทย์รัฐบาลในการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำอีกด้วย

สำหรับเยาวชนและสถานศึกษาที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ www.thaihealth.or.th/inno กำหนดส่งใบสมัครได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 และในวันที่ 20 สิงหาคม 2562 จะประกาศผล 20 ทีมที่เข้ารอบเวิร์กช็อปกับ สสส. ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 ตุลาคม 2562


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน