สุดทน! ขายประกัน บุกเข้าบริษัทไม่ขออนุญาต ตื๊อไม่เลิกพูดจาไม่เกรงใจ

สมาชิกหมายเลข 4448869 เว็บไซต์พันทิป ได้ตั้งกระทู้เดือด ขอวิธีจัดการกับ พนักงาน ขายประกัน แบบฮาร์ดเซลล์ และบุกรุกความเป็นส่วนตัว จนเกินไป ระบุว่า ตามหัวข้อเลยครับผม ขออธิบายก่อนว่าที่บ้านทำธุรกิจส่วนตัวครับ เป็น SME ขนาดเล็กถึงกลาง

ดังนั้นที่โรงงานไม่มี รปภ. เราจะปิดรั้วไว้ คนนอกไม่เคยมีใครเข้า-ออก นอกจากผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น คือบ้านกับโรงงานจะตั้งอยู่คนละที่กัน เช้าผมก็มาทำงาน เย็นผมก็กลับบ้าน ประมาณนั้น ส่วนมากผมจะอยู่ที่โรงงานคนเดียวครับ พ่อแม่จะไม่ค่อยเข้ามา จะเข้ามาก็ต่อเมื่อมาเซ็นเอกสารหรือมีประชุมต่าง ๆ

เรื่องมันมีอยู่ว่า ตลอดเดือน พฤษภาคมนี้ มีพนักงานของบริษัท บริษัทหนื่ง (ขอไม่บอกชื่อตรงๆ )เข้ามาขายประกัน ทั้งหมด 5 ครั้ง โดยแบ่งออกเป็น 3 ทีม เข้ามาครั้งละ 4-5 คน ลักษณะการเข้ามาคือ จอดรถแล้วเปิดรั้วเดินเข้ามาเลยครับ บุกมา 4-5 คนนั่นแหละ มายืนเรียกๆ ให้ลงไปคุย (ออฟฟิศอยู่ชั้นสอง ชั้นล่างเป็นโต๊ะนั่งเล่น)

ครั้งแรก เข้ามาเสนอขายประกันชีวิต เราก็รับฟังและเราก็ปฏิเสธไป ก็หายไปได้สักประมาณ 1 อาทิตย์

ครั้งที่สอง เข้ามาอีกเปลี่ยนทีมมา หน้าไม่ซ้ำเลยครับ บอกไม่ทราบว่ามีคนอื่นเข้ามาแล้ว ขอรบกวนเวลาหน่อย เราก็โอเค ฟังๆๆๆๆๆๆ และก็ปฏิเสธไป

ครั้งที่สาม เข้ามาอีกครั้งนี้มาประมาณ 16.00 เปลี่ยนทีมมาอีกครับผม เหตุผลเดิม ไม่ทราบว่ามีทีมอื่นเข้ามาแล้ว เค้าอธิบายว่ายังไง ใช้มุกแบบ นั่นไง เค้าบอกความคุ้มครองไม่หมด ทีมนั้นใครนะ เดี๋ยวผมเพิ่มเติมให้ฟัง เราก็ปฏิเสธไป เราบอกว่าวันนี้ (16 พ.ค. 62) เราต้องจ่ายค่าแรงคนงาน ถ้ามานั่งฟังอยู่จะไม่มีเวลาไปเตรียมเอกสารและเงินจ่ายคนงาน พนักงานให้เอกสารไว้แล้วขอเบอร์เราไป หลังจากนั้นเราเลยขอตัวแล้วเดินขึ้นออฟฟิตเลย

ครั้งที่สี่ บุกเข้ามาอีก ช่วงเวลา 11.30 น. เราเตรียมตัวกำลังจะออกไปกินข้าว นั่งอยู่ข้างล่างพอดี บุกเข้ามา 4 คน ครั้งนี้มีหน้าเดิม 2 คน หน้าใหม่ 2 คน คนใหม่ก็ฮาร์ดเซลล์เลยครับผม ใส่ไม่ยั้ง โน่นนี่นั่นบลาๆ เราเลยบอก เรากำลังจะไปกินข้าว พนักงานขายคนนึงก็พูดขึ้นมาว่า “นี่ 11 โมงครึ่งเองจะออกไปกินข้าวแล้วหรอ”

เราเลยบอกไปแบบโมโหนิด ๆ ว่า “เราเป็นเจ้าของที่นี่ เราจะไปไหนเวลาไหนก็เรื่องของเรา” สถานการณ์เริ่มตึงเครียด พนักงานคนอื่นเลยพยายามชวนคุยเรื่องอื่น อย่างเช่น “หน้าตาดีอย่างนี้แต่งงานแล้วแน่ ๆ เลย ผมเห็นใส่แหวนทองนิ้วนางข้างซ้าย สนใจทำไว้ให้แฟนพี่สักเล่มไหมครับ”

ผมเลยบอกไปว่า “มีแฟนแล้วแต่ไม่ได้แต่งงาน แล้วอีกอย่างผมจะใส่แหวนนิ้วไหนข้างไหนก็เป็นเรื่องของผม” พนักงานขายก็เลยบอกว่า “ถือว่าช่วยน้องหน่อยนะ น้องใหม่กำลังหายอดขายอยู่” ผมเลยแจ้งไปว่า “ไม่มียอดที่นี่ ผมไม่มีเงินที่จะซื้อประกันเป็นหมื่น ๆ ในเวลานี้ครับ” ผมเลยปฏิเสธ เชิญกลับ แล้วขึ้นรถออกไปกินข้าว

ผ่านมาวันนึงผมกำลังเข้าพบลูกค้าอยู่ มีโทรศัพท์เข้า “หนูชื่อ ….. เป็นพนักงานขายที่เคยเข้ามาหา……” แล้วก็มีเสียงแทรกเข้ามาแบบฉุนเฉียวเลย (น่าจะไม่รู้ว่าเรารับสายแล้ว) “ถามมันไปเลยว่ามีแนวโน้มไหม จะได้ไม่เสียเวลา” อันนี้ฉุนเลย แต่เรากำลังคุยงานในห้องประชุม โมโหก็ด่าไม่ได้ เลยบอกไปนิ่ง ๆ ว่า ผมกำลังคุยงานกับลูกค้าอยู่ แล้ววางสายไปเลย

ครั้งที่ห้า (วันนี้ สดๆ ร้อนๆ) ขับรถเข้ามาจอดในโรงงานเลย เดินลงมาแล้วเรียกให้ไปคุย เป็นคนละทีมกับที่ผ่านมา ขอเวลาสักครู่ มีใครเคยเข้ามาหรือยัง … บลาๆ ครั้งนี้ฉุนขาดเลย เลยบอกว่า เข้ามาเยอะมาก ไม่มีการประชุมในเขตหรอว่าทีมไหนเข้ามาแล้วบ้าง แล้วลูกค้าสนใจไหม บุกๆกันเข้ามาแบบนี้อ่ะ เค้าเลยบอก ลองฟังใหม่หน่อยไหม เผื่อที่ผ่านมาไม่ละเอียดเราเลยไม่สนใจซื้อ

เราเลยบอกไปว่า ถามแบบเดิมเลย แนะนำแบบเดิม อายุเท่าไหร่ เงินเดือนเยอะไหม มีของเราหรือยัง อยากทำไหม ของเราดีกว่า ให้ไปยกเลิกอันอื่นมาทำอันนี้ของเรา บลาๆ…. บุกรุกความเป็นส่วนตัวเกินไป แล้วเราก็เชิญออกไป เราก็เดินกลับขึ้นมาทำงาน

แบบนี่เราแจ้งไปทางไหนได้บ้างอ่ะครับ เรารู้สึกว่า การที่โทรมาขายประกันมันล้าหลังไปแล้วหรือไง ตอนนี้ถึงเล่นบุกเข้ามาแบบนี้ ไม่มีการโทรนัด อยากจะมาก็มา เดินเข้าเดินออกกันหน้าตาเฉย คือเราก็พยายามจะเข้าใจว่า พนักงานขายก็ต้องพยายามจะขายแบบนี้ เราก็ไม่เคยปฏิเสธที่จะรับฟังและเอามาพิจารณาเลย

แต่บางทีเราว่ามันล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวเกินไป แล้วเราก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะสนใจ เราก็ปฏิเสธตลอดทำไมยังจะบุกๆ เข้ามาแบบนี้อีก

คำแนะนำ

จากนั้นได้มีคนมาแสดงความเห็นเดือดไม่แพ้เจ้าของกระทู้ ว่า เขียนป้ายติดหน้า โรงงานเลยครับ พื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้ามาก่อนได้รีบอนุญาต กำชับ รปภ.หน้าโรงงานไว้เลย

หรือไม่ก็ เคยเจอเหมือนกัน ที่ บ. ที่บ้าน มาสามหนได้มั้งวันนั้น แล้วก็ถามซอกแซก จนรำคาญ เลยบอกไปว่า พื้นที่นี้คือพื้นที่ของผม ผมมีสิทธิ์ที่จะไม่ต้อนรับใครก็ได้ พอดีที่บ้านมีกล้องวงจรปิดที่บันทึกเสียงได้ด้วย ถ้ายังไม่หยุดพฤติกรรมนี้ผมจะแฉลงโลกโซเชี่ยลเลย เอาเวลาที่มาหาบ้านผมเนี่ยไปหาคนอื่นเหอะ หลายๆชั่วโมงที่มาหาบ้านผมเนี่ยอาจจะได้ลูกค้าไปแล้ว

และ แล้วมายุ่งเรื่องส่วนตัวคนอื่นมากๆถ้าคนในบ้านผมเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต ทรัพย์สิน ผมเอาคุณเป็นผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหคนแรกเลยนะ เอาป่ะ หลังจากนั้นไม่มาอีกเลย ฮ่าๆๆ

สุดท้ายบอกว่า ใจดีเกินไปค่ะ ติดป้ายไว้เลยว่าสถานส่วนบุคคล เข้ามาไม่ได้รับอนุญาตถือว่าบุกรุก

อ่านต้นฉบับ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน