กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ หลังจากการจับกุมตัว 3 ผู้ต้องหา ​คดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือแอ๋ม หลังได้สอบปากคำ 3 ผู้ต้องหา คือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว, น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น และ น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ ซึ่งพบว่าระหว่างการควบคุมตัวไม่มีการใส่กุญแจมือแต่อย่างใด จนทำให้มีการตั้งคำถามว่าเหตุใด จึงไม่มีการใส่กุญแจมือ ทั้งที่เป็นคดีอุกฉกรรจ์

จากกรณีดังกล่าว พบว่า เพจดัง แหม่มโพธิ์ดำ ได้นำข้อความที่สมาชิกเฟซบุ๊ก รายหนึ่งที่อ้างว่าตนเองเป็นตำรวจและอยากชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ว่า ตามกฎหมายมีเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ใส่กุญแจมือผู้ต้องหาทั้งสามคน เพื่อไม่ให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จนทำให้เกิดความเสื่อมเสียและเข้าใจผิด

โดยระบุว่า “ ​​1.การใช้กุญแจมือหรือเครื่องพันธนาการ พันธนาการผู้ต้องหา ตามสมควรแก่เหตุ ตามกฎหมาย ป.วิ อาญา ระบุไว้ว่า เจ้าหน้าที่สามารถพันธนาการคนร้ายได้ตามสมควรแก่เหตุ ไม่มาเกินไปหรือไม่น้อยเกินไป เช่น มีตำรวจ 5 นาย ผู้ต้องหา 1 คน จะใส่จะใส่กุญแจมือด้านหลังก็เพียงพอ หรือหากผู้ต้องหาเป็นผู้หญิงและมีตำรวจตั้ง 5 นาย จะไม่ใส่กุญแจมือก็ได้ การพันธนาการผู้ต้องหาจะต้องสมควรแก่เหตุ หรือหากผู้ต้องหามีจำนวนมากก็เป็นตัวแปรสำคัญที่อาจมีโอกาสเกิดภัยคุกคามได้ “ไม่จำเป็นว่าผู้ต้องหา 1 คน จะต้องมีเจ้าหน้าที่ควบคุม 1 คน ไม่ได้มีกฎหมายระเบียบอะไรกำหนดไว้ แต่โดยหลักควรจะมีตำรวจจำนวนมากกว่าผู้ต้องหา เพราะว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นจะสามารถใช้กำลังควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ถ้าตำรวจน้อยกว่าโอกาสในการเพลี้ยงพล้ำจะสูง มันเป็นหลักปฏิบัตินิยม โดยหลักแล้วควรจะต้องมีจำนวนเจ้าหน้าที่มากกว่าผู้ต้องหา แต่ถ้าจำเป็นและมีจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่พอจริงๆ ก็ต้องพันธนาการให้แน่นหนา ผู้ต้องหา 10 คน ตำรวจ 5 คนจะคุมกันได้อย่างไร”

2.ทำไมผู้ต้องหาถึงอยู่ดี กินดี แต่งหน้าสวยได้

จริงๆตอนนั้น เป็นแค่การจับกุมได้ ยังไม่มีการสืบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งต้องทำในพื้นที่ คือ จ.ขอนแก่น ดังนั้น สิทธิพวกนี้ยังคงได้รับตามแก่สมควร ซึ่งใครก็มีสิทธิ์ที่จะขอได้

3.ทำไมร่าเริงจัง ไม่สลดกับความผิด เจ้าหน้าที่ก็หัวเราะสนุกด้วย

คือจริงๆ มองอีกด้านคือการใช้จิตวิทยากับผู้ต้องหา ให้ความสนิทด้วย มีอารมณ์ร่วมด้วย เพื่อจะได้ไม่ให้เขาเครียดเกินไปและง่ายต่อการให้ปากคำในขั้นตอนต่อไป

อีกมุม อาจจะหัวเราะเล่นกันตามประสา ซึ่งถามว่าผิดวินัยไหม ก็ไม่ผิด แต่อาจจะไม่ควรเท่าไหร่ในสายตาประชาชน อันนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคนครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน