กรรมาธิการการเกษตรฯ จับมือ กองทัพบก นำผลผลิตข้าวจากกลุ่มนาแปลงใหญ่ 40,000 กก. ช่วยเหลือผู้เดือดร้อน และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา กล่าวในโอกาสเดินทางไปร่วมกิจกรรมส่งความปราถนาดีแก่เกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ โควิด-19 ที่ศูนย์เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน หรือ ศูนย์ปราชญ์เกษตรช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ฯ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวต่อว่า จึงประสานขอความร่วมมือจากกองทัพบก นำสิ่งของมอบให้กับหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ เพื่อมอบต่อให้ประชาชนที่เดือดร้อน 8,000 ราย ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, พระนครศรีอยุธยา, นนทบุรี, ปทุมธานี, นครราชสีมา, สุราษฎร์ธานี และพิษณุโลก
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า โดยนำสินค้าเกษตรประกอบด้วย ข้าวสาร จากกลุ่มนาแปลงใหญ่ ต.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จำนวน 8,000 ถุง รวม 40,000 กิโลกรัม ประกอบด้วย ข้าวพันธุ์ กข 77 ปทุมธานี 1 หอมมะลิ เหลืองอ่อน และข้าวขาว 5% และมีปลาแห้ง น้ำพริกจากเกษตรกรเครือข่ายกลุ่มนาแปลงใหญ่อีก 1,200 ชุด และโจ๊กคัพ 500 ถ้วย
“กิจกรรมดังกล่าวนับเป็นการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปพร้อมกัน ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการการเกษตรฯ ได้ทำการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนได้รับประโยชน์แล้ว 8,650 ราย ในพื้นที่ 6 ภาค 12 จังหวัด และที่ผ่านมาได้เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ประชุมให้ความรู้แก่กลุ่มเกษตรกรในการทำเกษตรอินทรีย์ ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้สามารถผ่านวิกฤติโควิด-19 และติดตามปัญหาภัยแล้งในหลายพื้นที่” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
ด้าน พล.ท.พัลลภ เฟื่องฟู ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก กล่าวว่า หน่วยบัญชาการห้องกันภัยทางอากาศยานกองทัพบก เป็นผู้แทนรับมอบข้าวสารอาหารแห้งที่คณะกรรมาธิการการเกษตรมอบให้ แทนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ
พล.ท.พัลลภ กล่าวต่อว่า และได้จัดทำโครงการ Army Delivery โดยจัดกำลังพลพร้อมยานพาหนะนำสิ่งของไปช่วยเหลือประชาชนถึงบ้าน นำยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกมาใช้ในการช่วยเหลือประชาชน โดยมีรถครัวสนาม ซึ่งประกอบอาหารได้ 3,000 กล่องต่อมื้อ ไปประกอบอาหารแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่
พล.ท.พัลลภ กล่าอีกว่า มีการจัดตั้ง “ตู้ปันสุข” ในพื้นที่ชุมชน ด้วยการสนับสนุนนสิ่งของอุปโภคบริโภคที่ได้รับการสนับสนุนไปใส่ตู้แบ่งปัน ตามแนวคิด “หยิบไปเท่าที่จำเป็น และแบ่งปันเท่าที่ทำได้” ซึ่งเป็นการทำให้สังคมได้มีการแบ่งปันและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรง เพื่อเป็นการป้องกันสินค้าเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำ เพื่อนำผลผลิตทางการเกษตรมาประกอบอาหารเลี้ยงกำลังพลภายในหน่วยและจำหน่ายในหน่วยงานทหารและหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบกยังพร้อมปฏิบัติตามนโยบายของกองทัพบกที่ว่า กองทัพบกเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาสด้วย