กรมทะเลจับมือจุฬาฯและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์พิสูจน์อัตลักษณ์สัตว์ทะเล ร่วมหามาตรการในการรักษา คุ้มครอง และฟื้นฟูสัตว์ทะเลหายาก

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วย.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และศ.น.สพ.ดร. รุ่งโรจน์ ธนาวงษ์นุเวช คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงนามข้อตกลงในการพิสูจน์อัตลักษณ์สัตว์ทะเล เพื่อต่อยอดสู่การอนุรักษ์

นายโสภณ กล่าวว่า ภายหลังการลงนามความร่วมมือด้านวิชาการว่า จากรายงานสถิติสถานการณ์สัตว์ทะเลหายากที่พบการเกยตื้น ช่วงปี 2562 – 2563 พบสัตว์ทะเลหายากจำพวกเต่าทะเล พะยูน โลมาและวาฬ เกยตื้นชนิดพบเป็นซากสะสมกว่า 970 ตัว สามารถช่วยรอดชีวิตกว่า 473 ตัว และสามารถปล่อยกลับลงสู่ทะเลกว่า 200 ตัว

สาเหตุการตายหรือการเกยตื้นส่วนใหญ่ก็มีสาเหตุจากกิจกรรมมนุษย์ ทั้งจากเครื่องมือประมง กลืนกินขยะทะเล ปัญหามลพิษปนเปื้อนในน้ำทะเล การเสียชีวิตเนื่องจากโรคตามธรรมชาติ นอกจากนี้ หลายกรณียังไม่ทราบสาเหตุการตายที่แน่ชัด

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ด้วยเหตุนี้นายวราวุธศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. มีนโยบายในการศึกษาและสืบหาสาเหตุการตายของสัตว์ทะเลหายากต่าง ๆ เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการในการรักษา คุ้มครอง และฟื้นฟูสัตว์ทะเลหายากที่นับวันจะลดจำนวนลง จึงเป็นเหตุให้กรมฯ ได้หาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความพร้อมทั้งบุคลากร รวมถึงเครื่องมือในการพิสูจน์และชันสูตรการเสียชีวิต

ในช่วงวิกฤติสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 มีการประกาศปิดอุทยานกว่า 140 แห่ง มนุษย์ได้อยู่ห่างจากธรรมชาติ ปล่อยให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว มีการรายงานการพบเห็นสัตว์ทะเลหายากบ่อยครั้งในหลาย ๆ พื้นที่

“วราวุธ”รมว.ทส.ปลื้มทรัพยากรทางทะเลเมืองร้อยเกาะฟื้นตัว

“ในเดือนกรกฎาคมจะเริ่มเปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล การท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก การทำประมงอย่างถูกหลักวิธี การลดการปล่อยของเสียและขยะลงทะเล เราคงต้องดำเนินการสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อย่างจริงจัง บทเรียนที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงผลจากการกระทำของมนุษย์ต่อสัตว์ทะเลหายาก หากเราไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เราอาจจะสูญเสียสัตว์ทะเลหายากไปทั้งหมด และลูกหลานเราคงได้เห็นเฉพาะเพียงภาพถ่าย หน้าที่ของเราคือรักษาทรัพยากรทางทะเลให้คงอยู่และยั่งยืน เพื่อคืนให้ลูกหลานเราได้ชื่นชมและอนุรักษ์ต่อไป”

 

ด้านพ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงยุติธรรม โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นหน่วยงานที่จะดำเนินการใด ๆ เพื่อความยุติธรรม ไม่ใช่เฉพาะต่อมนุษย์ แต่เรายังคำนึงถึงความยุติธรรมต่อสัตว์ที่อยู่ร่วมโลก ซึ่งครั้งนี้ อาจจะเป็นครั้งแรกของโลกที่จะใช้นิติวิทยาศาสตร์กับสัตว์ ซึ่งทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ก็มีความพร้อมและยินดีที่จะร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการพิสูจน์และชันสูตรหาสาเหตุการตายของสัตว์ทะเลหายาก ทั้งเพื่อการศึกษาวิจัย และสืบหาความยุติธรรมให้แก่สัตว์ทะเลหายาก

ขณะที่ศ.น.สพ.ดร. รุ่งโรจน์ ธนาวงษ์นุเวช คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า ในด้านวิชาการเราจะยึดหลัก Prevention better than cure หรือการป้องกันดีกว่าการรักษา ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นหน่วยงานที่มีฐานข้อมูลที่สำคัญจำเป็น การพิสูจน์ทราบสาเหตุการตายหรือการเกยตื้นจะเป็นประโยชน์สำคัญอย่างยิ่งในอนาคต ทางทีมสัตวแพทย์จะใช้องค์ความรู้ทางวิชาการเพื่อช่วยลดโอกาสการเกยตื้นและการตาย ในทางกลับกัน ทางทีมสัตวแพทย์ก็ยังได้ศึกษา วิจัย และเรียนรู้เพิ่มเติมจากความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและชาวโลกต่อไปในอนาคต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน