หนุ่มโชเฟอร์รถทัวร์โพสต์คลิปตร.เชิงทะเลจับปรับน้ำท่อแอร์ไหลลงพื้น ตร.จราจรแจงเป็นคำสั่งผู้บังคับบัญชาสั่งจับ หลังขับรถตามพบน้ำไหลเรี่ยราดตลอดทาง ย้ำทำตามหน้าที่ไม่ได้หวังเงินค่าปรับ

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “จะทำดี ไปทำไมในเมื่อไม่มีค่า” โพสต์ภาพวิดิโอคลิป พร้อมระบุข้อความว่า “ระวังให้ดีนะคับ…แยกเชิงเลอย่าให้น้ำแอร์ย้อยนะคับ…เดียวจะถูกจับเพราะเพื่อนผมโดนมาแล้ว 5555”

โดยในคลิปดังกล่าวเป็นภาพขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนายหนึ่ง กำลังเขียนใบสั่งให้คนขับรถ ซึ่งกำลังเป็นคนถ่ายภาพพร้อมกำลังใช้วาจา บอกเล่าว่าเจ้าหน้าที่จับกุมด้วยข้อหาท่อน้ำแอร์ทิ้ง โดยระบุว่า“ผมองคุยกับนายหัว หรือเจ้าของรถแล้วว่าจะมาจ่ายค่าปรับเองในภายหลัง โดยผู้ถ่ายพยายามสอบถามว่าผมความผิดในข้อหาอะไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่าข้อหา “เรี่ยราด” ซึ่งผู้ถ่ายได้ถามตร.อีกครั้ง ว่า “แล้วทำไมไม่จับรถบรรทุกยางด้วยเนื่องจากเรี่ยราดเยอะกว่า แถมมีกลิ่นเหม็น พร้อมกล่าวว่าทำสองมาตรฐาน เพิ่งเคยพบเคยเห็น จับกุมเรื่องท่อน้ำแอร์ ข้อหาเรี่ยราด”

อย่างไรก็ตาม หลังมีการโพสต์คลิปดังกล่าวทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่อว่าเจ้าหน้าที่ว่ากระทำไปเพราะเห็นแก่เงิน หรือแสดงความเห็นเชิงประชดประชัน การทำงานของเจ้าหน้าที่

ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถาม ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจนทราบว่า เจ้าหน้าที่ ตร.จราจรในคลิปดังกล่าว คือด.ต.นิยม บุญรัตน์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานจราจร สภ .เชิงทะเล

ด.ต.นิยม กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนเองได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาว่าให้เรียกตรวจสอบและจับกุมรถทัวร์คันดังกล่าว เนื่องจากผู้บังคับบัญชาซึ่งขับตามรถคันดังกล่าวมา พบว่า มีการปล่อยน้ำออกมาจากท้ายรถและเรี่ยราดบนถนน ตลอดทางที่วิ่งคือเส้นทางจากอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร มุ่งหน้ามาทาง ต.เชิงทะเล ผู้บังคับบัญชาจึงได้ แจ้งเข้าศูนย์วิทยุของ สภ.เชิงทะเล ก่อนแจ้งให้ตร.จราจรสกัดจับ

ซึ่งในขณะนั้นตนเองกำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ที่หน้า ธ.ไทยพานิชย์ สาขาเชิงทะเล จึงได้สกัดจับรถทัวร์คันดังกล่าว พร้อมทั้งตั้งข้อหาดังกล่าว ซึ่งขณะที่กำลังเขียนใบสั่งอยู่นั้น คนขับก็ได้ถ่ายคลิปแต่ตนเองก็ไม่ได้ตอบโต้ และเพิ่งทราบว่านำไปโพสต์ประจานในวันนี้ ซึ่งตนเองยืนยันว่าการจับปรับดังกล่าวได้กระทำตามกฎหมาย ไม่ได้เห็นแก่เงินค่าปรับแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบจากใบสั่งเป็นผู้ขับขี่รถบัสป้ายทะเบียน 30-7188 ภูเก็ต พบว่ามีการแจ้งข้อหา “บรรทุกโดยไม่มีสิ่งป้องกันตกหล่น”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน