วันที่ 20 ต.ค. สถานีโทรทัศน์ทีเอสเอ็นของยูเครนรายงานว่า น.ส.อัลโยนา ไซต์เซฟ วัย 20 ปี ที่ขับรถเก๋งยี่ห้อเล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 350 ฝ่าไฟแดง และชนกับรถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก ที่วิ่งมาอีกทางหนึ่งกลางสี่แยก ก่อนปลิวไถลพุ่งชนคนยืนรอข้ามถนนเสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 6 คน ที่เมืองฮาร์คอฟ ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อค่ำวันที่ 18 ต.ค. ถูกตำรวจนำตัวเข้ารับฟังการพิจารณาคดีในศาลแขวงเคียฟสกี

การพิจารณาคดีเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยแม่ น.ส.อัลโยนาเดินทางมาฟังพิจารณาคดีด้วย เมื่อ น.ส.อัลโยนาเดินทางมาถึงห้องพิจารณาคดี ผู้สื่อข่าวถามก่อนการพิจารณาคดีว่า น.ส.อัลโยนายอมรับผิดหรือไม่ น.ส.อัลโยนาร้องไห้และตอบว่า “ไม่” ส่วนแม่ น.ส.อัลโยนาปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อ ตอบเพียงสั้นๆ ว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ระหว่างการพิจารณาคดี น.ส.อัลโยนานั่งอยู่ในห้องกระจกสำหรับผู้ต้องสงสัยและร้องไห้ตลอดเวลา ต่อมา น.ส.อัลโยนาให้การต่อศาลว่า ตนมีโรคที่ต้องรักษาอยู่ก่อนหน้านี้ และทุก 6 เดือน จะต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพและรับประทานยาด้วย พร้อมยอมรับว่า เคยได้รับโทษปรับข้อหาละเมิดกฎจราจรหลายครั้ง แต่จำไม่ได้ว่ากี่ครั้งแล้ว โดยตอบว่า “แค่ไม่กี่ครั้ง”

https://img.tsn.ua/cached/1508500603/tsn-c4a14e908bc0d57dbb04383f58c6fbeb/thumbs/1340x530/e9/f5/48e867f1b51fcf066749dda5c657f5e9.jpeg

น.ส.อัลโยนา ไซต์เซฟ นั่งร้องไห้ในห้องกระจกระหว่างการรับฟังพิจารณาคดีในศาล/ © УНИАН

สำหรับบรรยากาศการในห้องพิจารณาคดี ฝ่ายโจทก์ระบุว่า จากผลตรวจร่างกาย น.ส.อัลโยนา พบสารเสพติดในตัวอย่างเลือด โดยยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องให้อัยการ พร้อมขอให้ น.ส.อัลโยนาถูกคุมขังโดยไม่ให้สิทธิในการประกันตัว แต่ทนายความ น.ส.อัลโยนา ฝ่ายจำเลย ขอให้ศาลเลื่อนการพิจารณาอย่างอย่างน้อยที่สุดถึงพรุ่งนี้ เพื่อตรวจร่างกาย น.ส.อัลโยนาซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากเอกสารที่ระบุว่า พบสารเสพติดในเลือด น.ส.อัลโยนายังไม่มีความชัดเจน โดยจำเป็นต้องทำการตรวจสอบว่า มีสารอะไรบ้างอยู่ในยารักษาโรคที่ น.ส.อัลโยนาได้รับเข้าไปก่อนจะตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง

สถานีโทรทัศน์ปรีมีย์

ต่อมาอัยการโจทก์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในห้องพิจารณาคดี หลังระบุก่อนหน้านี้ว่า พบยาเสพติดในร่างกาย น.ส.อัลโยนาว่า น.ส.อัลโยนารับประทานยา “โพรพาโนลอล” ทันทีใน 1 ชั่วโมงต่อมา หลังเกิดอุบัติเหตุ เพื่อลดความดัน ซึ่งในเวลานั้นอยู่ที่ 135/80

น.ส.อัลโยนา ไซต์เซฟ ให้สัมภาษณ์สื่อผ่านห้องกระจก/ ทีเอสเอ็น

ระหว่างการพิจารณาคดี ด้านพ่อแม่ของ น.ส.อัลโยนาออกมาเปิดเผยว่า ต้องการให้ความช่วยเหลือทางการเงินและอื่นๆ ให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยทนายความฝ่ายจำเลยระบุว่า พ่อแม่แสดงเจตจำนงดังกล่าว ถึงแม้ว่า น.ส.อัลโยนาจะยังไม่ถูกพิสูจน์ว่ามีความผิดจริงก็ตาม โดยยื่นเอกสารคำร้องต่อพนักงานสอบสวน พร้อมส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวไปในสำนวนคดีด้วย

“เราหวังว่า การสอบสวนจะช่วยให้เราให้ความช่วยเหลือทางการเงินผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ในมุมมองข้าพเจ้า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แท้จริงซึ่งชี้ว่าใครเป็นผู้กระทำผิดในอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่ครอบครัว น.ส.อัลโยนาเชื่อว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้องให้ความช่วยเหลือก่อน” ทนายความฝ่ายจำเลยระบุ

น.ส.อัลโยนา ไซต์เซฟ

ก่อนหน้านี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า น.ส.อัลโยนาเป็นบุตรสาวบุญธรรมของนายวาซีลีย์ ไซต์เซฟ นักธุรกิจเศรษฐีของเมือง เป็นประธานบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรป่าไม้ และบริษัทวิศวกรรมพลังงาน สังคมโซเชี่ยลมีเดียจึงมีปฏิกิริยาไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากไม่เชื่อว่าการสอบสวน น.ส.อัลโยนาจะเป็นไปอย่างโปร่งใส อำนาจเงินสามารถทำให้เธอไม่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง พร้องตั้งข้อสงสัยว่า น.ส.อัลโยนาอาจเมาแล้วขับด้วย

นายวาซีลีย์ ไซต์เซฟ

นายวิตา ดูโบวิก โฆษกอัยการท้องที่ ระบุว่า จะดำเนินการจับกุม น.ส.อัลโยนาในฐานะผู้ต้องสงสัยก่ออุบัติเหตุบนท้องถนน เนื่องจาก 1.เป็นคดีที่สะเทือนสังคมในเมืองฮาร์คอฟ 2.จำนวนผู้เสียชีวิตที่มีถึง 5 ราย และ 3.ครอบครัวมีช่องทางหลบหนีออกนอกประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน