วันที่ 20 ต.ค. ที่ศาลแขวงเคียฟสกี เมืองฮาร์คอฟ ทางตะวันออกของยูเครน ศาลพิจารณาใช้มาตรการเชิงป้องกัน (Preventive Measure) สั่งฝากขัง น.ส.อัลโยนา ไซต์เซฟ อายุ 20 ปี ในเรือนจำเป็นเวลา 60 วัน (นับตั้งแต่ 18 ต.ค.-16 ธ.ค. 2560) ซึ่งเป็นระยะเวลาสูงสุด พร้อมคัดค้านการประกันตัว ระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด หลังก่อเหตุขับรถเก๋งยี่ห้อเล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 350 ฝ่าไฟแดง และชนกับรถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก ที่วิ่งมาอีกทางหนึ่งกลางสี่แยก ก่อนจะปลิวไถลไปชนคนรอข้ามถนนเสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 6 คน เมื่อค่ำวันที่ 18 ต.ค.

คำตัดสินดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ น.ส.อัลโยนาถูกนำตัวขึ้นศาลเพื่อรับฟังการพิจารณาคดีในวันเดียวกัน (20 ต.ค.) แม่ น.ส.อัลโยนาก็เดินทางมาฟังการพิจารณาคดีด้วย โดย น.ส.อัลโยนาถึงขั้นร่ำไห้ออกมาหลังได้ยินคำตัดสิน และปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อคำตัดสินดังกล่าว


ศาลตัดสินจำคุก 60 วัน คัดค้านการประกัน/ Nikolay Krivolapoff

ด้านอัยการฝ่ายโจทก์พอใจกับคำตัดสิน แต่ทนายฝ่ายจำเลยไม่พอใจ และจะยื่นลดโทษให้เป็นถูกกักบริเวณภายในบ้าน โดยอ้างว่ายังขาดหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นว่า น.ส.อัลโยนามีความผิดจริง อีกทั้งจำเลยมีสุขภาพย่ำแย่ อย่างไรก็ตาม ทนายฝ่ายจำเลยยังไม่ตัดสินใจว่าจะยื่นอุทธรณ์เพื่อสู้คดีหรือไม่ จะต้องปรึกษาหารือกับลูกความก่อน ต่อมา หลังพิจารณาใช้มาตรการเชิงป้องกันแล้ว ศาลเริ่มพิจารณาอีกคดีที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.อัลโยนา ถึงคำร้องของอัยการ โดยถอนสิทธิในการขับรถจนถึงวันที่ 19 ธ.ค. ยึดรถเก๋งเล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 350 และรถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก และทนายฝ่ายจำเลยมีเวลา 7 วัน ในการยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินดังกล่าว


สีหน้าจำเลยในสภาพซีดเซียวระหว่างพักครึ่งการพิจารณาคดีในศาล/ Nikolay Krivolapoff

สำหรับบรรยากาศการพิจารณาคดีวันนี้ (20 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวถามก่อนการพิจารณาคดีว่า น.ส.อัลโยนายอมรับผิดหรือไม่ น.ส.อัลโยนาร้องไห้และตอบว่า “ไม่” เมื่อถึงเวลาพิจารณาคดี น.ส.อัลโยนาให้การต่อศาลว่า ตนมีโรคที่ต้องรักษาอยู่ก่อนหน้านี้ และทุก 6 เดือน จะต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพและรับประทานยาด้วย พร้อมยอมรับว่า เคยได้รับโทษปรับข้อหาละเมิดกฎจราจรหลายครั้ง แต่จำไม่ได้ว่ากี่ครั้งแล้ว โดยตอบว่า “แค่ไม่กี่ครั้ง”


อัยการฝ่ายโจทก์-ทนายฝ่ายจำเลย-ผู้พิพากษาระหว่างการพิจารณาคดี/ Nikolay Krivolapoff

“ดิฉันรู้สึกเสียใจอย่างมากที่เกิดอุบัติเหตุ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เรื่องนี้เรื่องเดียวทำให้ดิฉันตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจจริงๆ ดิฉันหวังว่า ครอบครัว (ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต) จะยอมให้พ่อแม่ดิฉันให้ความช่วยเหลือ เพราะเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นมา” น.ส.อัลโยนาให้การต่อศาล


ศาลตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องพิจารณาคดี/ Nikolay Krivolapoff

ระหว่างการพิจารณาคดี ฝ่ายโจทก์ระบุว่า จากผลตรวจร่างกาย น.ส.อัลโยนา พบสารเสพติดในตัวอย่างเลือด โดยยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องให้อัยการ พร้อมขอให้ น.ส.อัลโยนาถูกคุมขังโดยไม่ให้สิทธิในการประกันตัว แต่ทนายความ น.ส.อัลโยนา ฝ่ายจำเลย ขอให้ศาลเลื่อนการพิจารณาอย่างอย่างน้อยที่สุดถึงพรุ่งนี้ (21 ต.ค.) เพื่อตรวจร่างกาย น.ส.อัลโยนาซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากเอกสารที่ระบุว่า พบสารเสพติดในเลือด น.ส.อัลโยนายังไม่มีความชัดเจน โดยจำเป็นต้องทำการตรวจสอบว่า มีสารอะไรบ้างอยู่ในยารักษาโรคที่ น.ส.อัลโยนาได้รับเข้าไป ซึ่งต่อมาศาลตัดสินจำคุก น.ส.อัลโยนา 60 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว

ภาพจากกล้องวงจรปิดนาที่รถเก๋งเล็กซัสฝ่าไฟแดงและชนกับรถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก (นาที 0:25 เป็นต้นไป)

นอกจากนี้ ระหว่างการพิจารณาคดี ทนายความฝ่ายจำเลยแก้ต่างให้ น.ส.อัลโยนาว่า ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด แต่ต้องดำเนินคดีกับคนขับรถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก ที่ชนกับรถเก๋งยี่ห้อเล็กซัสของ น.ส.อัลโยนาที่ขับรถฝ่าไฟแดงกลางสี่แยก โดยหยิบยกประเด็นที่ว่า คนขับรถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก ฝ่าฝืนกฎจราจรแต่แรก

รถเล็กซัส/ ฮาร์คอฟ ซิตี้

“ภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นอย่างชัดเจนว่า รถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก ชนกับรถเก๋งเล็กซัส เห็นอย่างชัดเจนว่า ก่อนที่รถโฟล์กสวาเกนจะขับออกไป ได้หยุดอยู่หลัง “เส้นแนวหยุด” ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง และเห็นอย่างชัดเจนว่า รถโฟล์กสวาเกนเริ่มขับออกไป เมื่อสัญญาณไฟจราจรยังเป็นสีเหลือง จึงมีคำถามว่า “ทำไมต้องดำเนินคดีกับ น.ส.อัลโยนา” ข้าพเจ้าเชื่อว่า การกระทำของคนขับรถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก พิสูจน์ได้ว่าฝ่าฝืนกฎจราจร” นางยูเรีย คอซีร์ หนึ่งในทนายความฝ่ายจำเลย ระบุ

รถโฟล์ก/ ฮาร์คอฟ ซิตี้

นางคอซีร์กล่าวด้วยว่า อีกสาเหตุของอุบัติเหตุสลดครั้งนี้ นอกจากเรื่องตำแหน่ง “เส้นแนวหยุดรถ” และเรื่องรถวิ่งออกไป เมื่อสัญญาณไฟจราจรยังเป็นสีเหลืองแล้ว ยังเกิดจากคนขับรถโฟล์กสวาเกนเอง “ไม่ยอมพยายามทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งอุบัติเหตุ” โดยมองว่า คนขับรถโฟล์กสวาเกนต้องให้ทางรถเล็กซัสไปก่อนซึ่งตอนนั้นหยุดการขับรถเร็วแล้ว การตั้งข้อสงสัยต่อลูกความของเธอจึงไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากยังไม่มีผลตรวจสอบทางเทคนิคของยานพาหนะ

คนเจ็บและเสียชีวิต/ ฮาร์คอฟ ซิตี้

ด้านอัยการฝ่ายโจทก์ชี้แจงว่า การกระทำของคนขับรถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก จะดำเนินการตรวจสอบหลังจากมีผลการสอบสวนและผลการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ พร้อมระบุผลการสอบสวนยืนยันว่า รถเก๋งเล็กซัสที่ น.ส.อัลโยนาขับฝ่าไฟแดงกลางสี่แยกด้วยความเร็วสูงจริง และถึงแม้ว่าสัญญาณไฟจราจรจะเป็นสีแดง น.ส.อัลโยนาก็ไม่หยุดรถหลังเส้นแนวหยุดรถบนสี่แยก

วันเดียวกัน ในโซเชี่ยลมีเดียมีภาพจากกล้องวงจรปิดฝั่งทางเท้าไม่ไกลจากที่จุดที่รถเก๋งเล็กซัสไถลพุ่งชนคนยืนรอข้ามถนนเสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 6 คน โดยหนุ่มสาวคู่หนึ่งรอดตายอย่างหวุดหวิด หลังเดินออกมาห่างจากที่เกิดเหตุไม่กี่วินาทีเท่านั้น

น.ส.อัลโยนา ไซต์เซฟ

ก่อนหน้านี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า น.ส.อัลโยนาเป็นบุตรสาวบุญธรรมของนายวาซีลีย์ ไซต์เซฟ นักธุรกิจเศรษฐีของเมือง เป็นประธานบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรป่าไม้ และบริษัทวิศวกรรมพลังงาน สังคมโซเชี่ยลมีเดียจึงมีปฏิกิริยาไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากไม่เชื่อว่าการสอบสวน น.ส.อัลโยนาจะเป็นไปอย่างโปร่งใส อำนาจเงินสามารถทำให้เธอไม่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง พร้องตั้งข้อสงสัยว่า น.ส.อัลโยนาอาจเมาแล้วขับด้วย

นายวาซีลีย์ ไซต์เซฟ

นายวิตา ดูโบวิก โฆษกอัยการท้องที่ ระบุว่า จะดำเนินการจับกุม น.ส.อัลโยนาในฐานะผู้ต้องสงสัยก่ออุบัติเหตุบนท้องถนน เนื่องจาก 1.เป็นคดีที่สะเทือนสังคมในเมืองฮาร์คอฟ 2.จำนวนผู้เสียชีวิตที่มีถึง 5 ราย และ 3.ครอบครัวมีช่องทางหลบหนีออกนอกประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน