วันที่ 22 ต.ค. สถานีโทรทัศน์ทีเอสเอ็นของยูเครนรายงานความคืบหน้าคดีของ น.ส.อัลโยนา ไซต์เซฟ วัย 20 ปี ที่ขับรถเก๋งเล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 350 ฝ่าไฟแดง และชนกับรถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก ที่วิ่งมาอีกทางหนึ่งกลางสี่แยก ก่อนปลิวไถลพุ่งชนคนยืนรอข้ามถนนเสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 6 คน ที่เมืองฮาร์คอฟ ทางตะวันออก เมื่อค่ำวันที่ 18 ต.ค. ว่า สถานะของคนขับรถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นพยานในคดี อาจกลายเป็นผู้ต้องสงสัยกระทำผิดอีกรายด้วย


ภาพจากกล้องวงจรปิด โดย อันตอน เกราเชนโก ที่ปรึกษา รมว.กิจการภายในยูเครน

โอเล็ก เบฮ์ ผกก.ตร.แคว้นฮาร์คอฟ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง รวมทั้งตรวจสอบทางเทคนิคของยานพาหนะด้วย จากนั้นเมื่อได้ผลตรวจทั้งหมดแล้ว จะทำผลสรุปสุดท้ายถึงความผิดของแต่ละคนที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุในครั้งนี้ โดยยังไม่ตัดประเด็นที่ว่า หลังได้รับข้อมูลทั้งหมดมาแล้ว คนขับรถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก จะถูกเปลี่ยนสถานะจากพยานเป็นผู้ต้องสงสัยหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า การสืบสวนคดีนี้จะเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นกลางที่สุด และจะเปิดเผยผลการสืบสวนต่อสาธารณชนนับจากนี้ในอีก 10 วันข้างหน้า

คนเจ็บและเสียชีวิต/ ฮาร์คอฟ ซิตี้

สำหรับคนขับรถโฟล์กสวาเกน นิวส์รูมรายงานก่อนหน้านี้ว่า คือนายเก็นนาดี โดรนอฟ อายุ 59 ปี เป็นนักธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมาทรัพย์ ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ในวันเกิดเหตุ นายโดรนอฟยังอยู่ในที่เกิดเหตุและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการสอบสวน ส่วน น.ส.อัลโยนาไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ และปฏิเสธให้หลักฐานในคดี ตามสิทธิไม่กล่าวโทษตัวเองในมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญยูเครน

ล่าสุด นายโดรนอฟออกมาระบุครั้งแรกเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ผ่านทนายความส่วนตัวว่า ตอนนี้นายโดรนอฟนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลภายใต้การดูแลของตำรวจ โดยศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน และกล่าวว่า รถโฟล์กสวาเกน ทูอาเร็ก อยู่กลางสี่แยก เมื่อสัญญาณไฟจราจรเป็นสีเขียวแล้ว พร้อมระบุว่า นายโดรนอฟแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการสอบสวนคดีนี้

“ก่อนขับรถออกไป นายโดรนอฟดูทุกฝั่งของสี่แยกแล้วว่ามีอะไรกีดขวางหรือไม่ และไม่มีรถยนต์อยู่บนสี่แยก นายโดรนอฟจึงเริ่มขับรถออกไป เมื่อสัญญาณไฟจราจรเป็นสีเขียว และก็มีรถอีกคันหนึ่งวิ่งเข้ามาสี่แยกทันที” นายเซอร์เกย์ เปเรเปลีซา ทนายความของนายโดรนอฟ ระบุ ขณะที่นายโดรนอฟย้ำข้อเท็จจริงนี้อีกครั้งผ่านการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีเอสเอ็นว่า “ผมขับรถตอนไฟเขียว 100% ผมแค่เจ็บศีรษะ ไม่สามารถพูดมากอะไรได้ตอนนี้ ต้องการพักผ่อนเพื่อรับการรักษา”

น.ส.อัลโยนา ไซต์เซฟ

ทั้งนี้ น.ส.อัลโยนาเป็นบุตรสาวบุญธรรมของนายวาซีลีย์ ไซต์เซฟ นักธุรกิจเศรษฐีของเมือง เป็นประธานบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรป่าไม้ และบริษัทวิศวกรรมพลังงาน สังคมโซเชี่ยลมีเดียจึงมีปฏิกิริยาไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากไม่เชื่อว่าการสอบสวน น.ส.อัลโยนาจะเป็นไปอย่างโปร่งใส อำนาจเงินสามารถทำให้เธอไม่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง อย่างไรก็ตาม วันที่ 20 ต.ค. ศาลพิจารณาใช้มาตรการเชิงป้องกัน (Preventive Measure) สั่งฝากขัง น.ส.อัลโยนา ไซต์เซฟ อายุ 20 ปี ในเรือนจำเป็นเวลา 60 วัน (นับตั้งแต่ 18 ต.ค.-16 ธ.ค. 2560) ซึ่งเป็นระยะเวลาสูงสุด พร้อมคัดค้านการประกันตัว ระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด

นายวาซีลีย์ ไซต์เซฟ

สถานีโทรทัศน์เอสเพรโซรายงานเพิ่มเติมว่า น.ส.อัลโยนาเป็นน้องสาวร่วมบิดาของนายดมีตรี ไซต์เซฟ อดีตรองอัยการแคว้นเชอร์คาซี ตอนกลางของยูเครน เมื่อปี 2556 ในสมัยที่นายวิกเตอร์ ปชอนกา เป็นอัยการสูงสุดของยูเครน ซึ่งถูกรัฐสภาขับออกจากตำแหน่งในช่วงเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองยูเครน (ยูโรไมดาน) เมื่อปี 2557 พร้อมถูกจำกัดสิทธิทำงานและสิทธิส่วนบุคคล นายดมีตรีซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชานายวิกเตอร์จึงได้รับผลกระทบไปด้วย ตอนนี้มีหมายจับ หลังหลบหนีออกนอกประเทศไปรัสเซีย

พี่เป็นอดีต‘รองอัยการ’ มีหมายจับ-หนีไปตปท.!

สื่อยูเครนยังเผยแพร่ชุดภาพถ่ายเรือนจำเมืองฮาร์คอฟที่ น.ส.อัลโยนาจะถูกฝากขังในช่วงเวลา 60 วัน ซึ่งมีการตกแต่งอย่างหรูหราเมื่อไม่กี่ปีมานี้ โดยทาสีกำแพงและประดับดอกไม้สีชมพู พร้อมจัดวางเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกด้วย สำหรับเรือนจำแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2391 หรืออายุ 169 ปีแล้ว สามารถบรรจุผู้ต้องขังได้สูงสุดเกือบ 3 พันคน

Городской доzoр

Городской доzoр

Городской доzoр

Городской доzoр

Городской доzoр

Городской доzoр

Городской доzoр

Городской доzoр

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน