หูกสยอง

หลอน
นทธี ศศิวิมล

ทุกวันนี้การทอผ้าใช้เครื่องจักรที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ ทั้งการออกแบบลายผ้าและควบคุมการผลิตทุกขั้นตอน แต่ในอดีตการทอผ้าเป็นผืนๆ นั้นใช้ “กี่” หรือที่ชาวอีสานเรียกว่า “หูก” นั้นเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะครัวเรือนที่สาวๆ ทอผ้าด้วยหูกได้ จะเป็นที่ขึ้นชื่อลือชามีชื่อเสียงเป็นที่หมายปองของชายหนุ่ม

การทอผ้านั้น คนอีสานเขาเรียกว่า “ตำหูก” เครื่องมือที่ใช้ทอเรียกว่า “หูก” ส่วนคนภาคกลางเรียกว่า “กี่” คนใต้เรียกว่า “เก” กี่หรือหูกก็มีหลายแบบ เท่าที่มีใช้กันก็คือ กี่กระตุก ซึ่งทางอีสานมักใช้ แบบที่สองเรียก กี่กระทบ แบบนี้นิยมใช้กันทั่วไปทั้งอีสาน เหนือและใต้ อีกสองแบบก็คือ กี่เอวและกี่ม้ง ซึ่งมักใช้กันในหมู่คนไทยที่ราบสูง กี่เอวนี่คนกะเหรี่ยงใช้กันมาก ส่วนกี่ม้งก็คนม้งตามชื่อนั่นแหละที่ใช้

เรื่องสยองเกิดขึ้นในอีสาน ผมจึงเรียกว่าหูก และแม้ว่ากี่หรือหูกนี้จะเป็นกี่เอวแต่เป็นกี่ที่มีที่ไปจากอีสาน

ผมไม่รู้ว่ากี่เอวอันนี้เดินทางไปถึงมือคนอีสานซึ่งคนแรกที่ใช้นี่คือใครผมไม่รู้ มันเป็นของเก่าที่แฟนผมซื้อมาสะสม เธอไปเจออยู่ในบ้านของตายายคู่หนึ่ง แกขายให้ในราคาถูกมากจนแฟนผมรีบตะครุบ โดยเมื่อถามที่มาที่ไป ตายายก็อ้ำอึ้งไม่บอก เบี่ยงเบนไปเรื่องอื่น จนเธอลืมๆ ไป (ด้วยราคาที่ถูกแสนถูกด้วยนั่นแหละ ทำให้รีบตะครุบซื้อ เกรงตายายจะเปลี่ยนใจ)

ตามที่เธอบอกผม กี่เอวเป็นกี่ขนาดเล็ก มีเข็มขัดผ้าหรือหนัง หรือเชือกที่แข็งแรงมัดกับเอวคนทอ แล้วมีที่เขาเรียกว่า “เสา” ซึ่งก็คือไม้ทรงกระบอกเสียบด้ายที่ทอ อันใหญ่สุดอันแรก จะใช้ปลายมัดกับเสาหรืออะไรก็ได้ที่แข็งแรง แล้วนั่งทอ กี่ชนิดนี้จึงมีขนาดเล็ก พาติดตัวไปทอได้ทุกที่ ชนิดหรืออุปกรณ์ที่ทอออกมาจึงเล็กไปด้วย อย่างกระเป๋า เข็มขัดหรือสายสะพายก็ใช้กี่เอวนี่แหละทอ อยากได้ใหญ่ก็ต้องทอหลายผืนมาเย็บต่อกัน

แฟนผมเขาตื่นเต้น ตอนแรกก็อยากทอเอง แต่เนื่องจากเธอเป็นคนรักและสะสมของเก่า จึงมักซื้อมาดู มาชื่นชมมาเก็บเสียมากกว่าจะนำมาใช้งาน เธอจึงดูๆ แล้วเก็บเอาไว้ในตู้ วางหราโชว์ว่าเป็นของเก่าด้วยลายเข็มขัดหรือสายคาดหลังที่เป็นหนังเก่า ทำให้ดูขรึมขลัง ลึกลับ ด้วยผ่านการใช้งานมานานจนลายหนังขึ้นรูปด้วยเหงื่อไคลและการเสียดสีมานับครั้งไม่ถ้วน

แฟนผมนั่งดูอยู่หลายวัน จนในที่สุดนึกอยากทอเอง เธอคิดของเธอเองว่าง่าย ทว่าเมื่อทดลองใช้กี่เอวกลับบอกว่ายาก ด้วยความที่ยังไม่ชำนาญ เธอเลือกลายง่ายๆ ก่อน ปกติมักจะเลือกลายเส้นตรงหรือที่เรียกว่าลายเส้นขาด

“ดูเหมือนฝนตกด้วย สวยดี” แฟนผมบอก ผมก็เออออไปด้วย

เธอมักทอหลังกลับจากงานทุกวัน แต่คืบหน้าช้ามาก มีแอบบ่นว่ายากชะมัด แต่ไหนๆ ก็ทอมาแล้วก็อยากทอให้เสร็จ

ดึกคืนหนึ่ง กำลังจะหลับผมว่าแว่วเหมือนเสียงทอผ้า ผมหันมามองแฟนผม เธอก็หลับอยู่ข้างๆ ไม่ได้แอบลงไปทอ พอตั้งใจฟังอีกครั้งเสียงก็หายไป

เป็นอย่างนี้อีกหลายคืน ผมจึงเล่าให้แฟนผมฟัง

“พี่สังเกตว่า จะเกิดขึ้นตอนกลางคืน หลังน้องนอนหลับไปแล้วทุกครั้ง คืนนี้ลองตื่นมาฟังนะ พี่จะปลุก ถ้าพี่ได้ยินเสียง”

ทว่าคืนนั้นไม่ได้ยินเสียง แฟนผมลุกมานั่งแล้วบอกว่า ผมหูฝาดไปเอง

แล้วคืนต่อมาผมก็ได้ยินอีก จึงสะกิดแฟนให้ตื่น เธอตื่นมาอย่างงัวเงียแล้วเสียงก็หายไป เธอจึงต่อว่าผม “กำลังฝันดีเลยพี่”

พูดจบเสียงทอผ้าก็แว่วขึ้นอีก หนนี้เธอได้ยินชัดเต็มสองรูหู

“เอาอย่างนี้” ผมเสนอ “พรุ่งนี้ก่อนนอนทอได้เท่าไหร่ จำไว้ แล้วตอนเช้าลองไปดูว่าผ้าผืนนั้นทอยาวขึ้นหรือเปล่า”

เราเฝ้ารอคืนต่อมาอย่างใจจดใจจ่อ และเมื่อถึงเวลาจริงก็ไม่ได้ยินเสียงอีก เรารู้สึกผิดหวัง

จู่ๆ อีกหลายคืนต่อมาจึงได้ยินเสียงทอผ้า คราวนี้เธอได้ยินและสะกิดผมให้ตื่น ผมตั้งใจฟังก็เหมือนเสียงนั้นจะดังกว่าทุกคืน ผมเหงื่อแตกเต็มหน้าผาก หันไปกุมมือแฟนก็พบว่า มือเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เช้ามา เราตรงไปที่ผ้าที่ทอค้างไว้ ปรากฏว่าผ้ายาวขึ้น!!

“นี่เรากำลังถูกผีหลอกหรือพี่” แฟนผมเริ่มหวาดกลัว เธอมองไปที่กี่และผ้าที่ทอค้างไว้อย่างหวาดๆ

คืนนั้นเองเมื่อเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ผมกับแฟนที่นอนเฝ้าฟังมาตั้งแต่หัวค่ำ เรามองหน้ากันในความมืด เสียงกี่ที่ทอนั้น ทุกครั้งที่ดังขึ้น ผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว ก่อนจะตัดสินใจชวนแฟน

“ลงไปดูกัน ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว”

ผมกับแฟนจูงมือกันก้าวลงบันไดอย่างช้าๆ แล้วภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็คือ หญิงสาวในชุดชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงกำลังทอผ้า เธอหันมาช้าๆ และพูดอย่างเย็นเยือกว่า

“พี่สองคนกำลังถูกผีหลอกค่ะ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน