กมธ.แรงงาน – นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาเชิงนโยบายและกฎหมายแรงงาน และโฆษกคณะกรรมาธิการการแรงงาน คณะกรรมาธิการการแรงงาน และคณะ

ลงพื้นที่พบปะประชาชนกลุ่มผู้ขาย และกลุ่มผู้ซื้อตามมาตรการ “ม33เรารักกัน” ณ ตลาดนัดเจมโม แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ กำชับพ่อค้าแม่ค้า ร้านค้า ผู้ประกอบการ อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและปฏิบัติตามเงื่อนไขโครงการฯ อย่างเคร่งครัด พร้อมเตือน ผู้ประกันตนอย่าหลงเชื่อขบวนการทุจริต แลกเงินสด

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาเชิงนโยบายและกฎหมายแรงงาน และโฆษกคณะกรรมาธิการการแรงงาน พร้อมด้วย คณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการ ลงพื้นที่พบปะประชาชนกลุ่มผู้ขาย และกลุ่มผู้ซื้อตามมาตรการ “ม33เรารักกัน”

โดยมี นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ ตลาดนัดเจมโม แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ

กำชับพ่อค้าแม่ค้า ร้านค้า ผู้ประกอบการ อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและปฏิบัติตามเงื่อนไขโครงการฯ อย่างเคร่งครัด พร้อมเตือน ผู้ประกันตนอย่าหลงเชื่อขบวนการทุจริต แลกเงินสด

นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาเชิงนโยบายและกฎหมายแรงงาน และโฆษกคณะกรรมาธิการการแรงงาน เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลเปิดโครงการ ม33เรารักกัน เปิดให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในระบบประกันสังคม ลงทะเบียนรับสิทธิ จำนวน 4,000 บาท โดยเริ่มโอนเงินให้ผู้ประกันตนเข้า G-Wallet ในแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง งวดแรกมาตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.งวดที่ 2 วันที่ 29 มี.ค. งวดที่ 3 วันที่ 5 เม.ย. และงวดสุดท้ายวันที่ 12 เม.ย.

งวดละ 1,000 บาท จนครบ 4,000 บาท ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 5 เม.ย.64 เวลา 23.59 น. มียอดใช้จ่ายแล้วจำนวน 10,356,637,330.18 บาท มีผู้ใช้จ่าย จำนวน 6,596,376 คนทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิ และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ได้ถึงวันที่ 31 พ.ค.64

น.ส.อนุสรี กล่าวต่อว่า ในวันนี้ดิฉันและคณะได้ถือโอกาสลงพื้นที่ตลาดเจมโม เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการ ม33เรารักกัน เพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรค จากพ่อค้าแม่ขาย และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกันตนว่ามีการใช้จ่ายแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ซึ่งจากการสำรวจไม่พบปัญหาและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ทั้งนี้ ขอเตือนไปยังผู้ประกันตน ร้านค้า โปรดอย่าหลงเชื่อโฆษณาเชิญชวนที่ทำผิดเงื่อนไขโดยไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้า หรือแลกเป็นเงินสด เพราะนอกจากจะถูกพ่อค้าหัวใสหักเปอร์เซ็นต์แล้ว ทำให้ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย และถือว่าเข้าข่ายทุจริตซึ่งอาจจะถูกตัดสิทธิและถูกดำเนินคดีอีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน