‘ไทย’ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์บนเวที COP 26 มุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี 2065

เมื่อเวลา 12.00 น วันที่ 1 พ.ย. 64 ตามเวลาท้องถิ่น สก็อตแลนด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำโลกด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (World Leaders Summit) ในห้วงการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP 26) การประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต (CMP 16) และการประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส (CMA 3)

โดยมีผู้นำจาก 117 ประเทศได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์การดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรม โดยนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลไทย ได้กล่าวถ้อยแถลงเพื่อยืนยันว่าประเทศไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และพร้อมที่จะยกระดับการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี 2065 หากได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินและเทคโนโลยีอย่างเต็มที่และเท่าเทียม

รวมถึงการเสริมสร้างขีดความสามารถจากความร่วมมือระหว่างประเทศและกลไกอื่นๆ ภายใต้กรอบอนุสัญญาฯ ประเทศไทยจะสามารถยกระดับเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NDC) เป็นร้อยละ 40 ได้และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิของไทยเป็นศูนย์ได้ภายในปี 2050

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการนำแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) มาเป็นยุทธศาสตร์แห่งชาติเพื่อปรับกระบวนทัศน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจโดยคำนึงถึงระบบนิเวศ และเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน โดยประเทศไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับนานาประเทศ เนื่องจากเราไม่มี “แผนสอง” เพื่อเยียวยาสภาพภูมิอากาศ เพราะเราไม่มี “โลกที่สอง” ที่เป็นบ้านของพวกเราได้เหมือนอย่างโลกใบนี้อีกแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน