สผ.ร่วมถกแก้ปัญหาโลกร้อน เร่งเดินหน้ามุ่งปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี 2065

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เป็นประธานการประชุมคณะผู้แทนไทยในระหว่างการประชุม COP26 โดยมี ดร. ณัฎฐนิช อัศวภูษิตกุล ผอ. กปอ. และผู้แทนไทยจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วม โดยเลขาธิการ สผ. ได้เน้นย้ำเป้าหมายการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม World Leaders Summit เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 64

โดยเฉพาะการมุ่งบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-zero GHG emission) ภายในปี 2065 ซึ่งหน่วยงานไทยต้องร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างเร่งด่วนและแสวงหาโอกาสการสนับสนุนเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย โดยผู้แทนไทยหารือต่อความก้าวหน้าของประเด็นเจรจาที่ประเทศไทยให้ความสำคัญในหลากหลายมิติ

อาทิ กรอบความร่วมมือภายใต้ข้อ 6 ของความตกลงปารีส เกี่ยวกับกฎ ระเบียบ แนวทางการดำเนินงานของกลไกที่ใช้ตลาดและไม่ใช้ตลาด ซึ่งยังมีหลายประเด็นที่ไม่สามารถได้ข้อสรุป เช่น การกำหนดค่าธรรมเนียมจากถ่ายโอนเครดิตไปยังกองทุนด้านการปรับตัว (Share of proceed) การปรับบัญชี NDC ของประเทศในกรณีที่มีการถ่ายโอนเครดิตจากก๊าซอื่น ๆ ที่ใช่และไม่ใช่ก๊าซเรือนกระจก การยินยอมและแนวทางให้มีการถ่ายโอนเครดิตจากการดำเนินโครงการภายใต้พิธีสารเกียวโตมายังกลไกภายใต้ข้อ 6.4 (Sustainable Development Mechanism) ของความตกลงปารีส การกำหนดโครงสร้างเชิงสถาบันของกลไกที่ไม่ใช่ตลาด เป็นต้น

กรอบเวลาการดำเนินงานร่วมกันของเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NDC) ซึ่งยังมีทางเลือกที่หลากหลายเกือบ 10 ทางเลือก เช่น 5 ปี 10 ปี หรือแล้วแต่ละประเทศจะกำหนด และการกำหนดปีที่จะเริ่มใช้กรอบเวลาร่วมกันดังกล่าว และการกำหนดรูปแบบตารางการรายงานบัญชีก๊าซเรือนกระจก การติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของ NDC และการรายงานการสนับสนุนทางการเงิน เทคโนโลยี และการเสริมสร้างศักยภาพที่ได้รับภายใต้กรอบความโปร่งใสของความตกลงปารีส ว่าควรมีความยืดหยุ่นให้ประเทศกำลังพัฒนาอย่างไร ควรบังคับใช้กับทุกประเทศหรือให้แต่ละประเทศสามารถพิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม และการกำหนดกรอบเวลาในการพัฒนาระบบสำหรับการรายงานว่าควรดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อรองรับการจัดส่งรายงานความโปร่งใสรายสองปีฉบับแรกของภาคีได้ทันตามกรอบเวลาไม่เกิน ค.ศ. 2024 เป็นต้น

การกำหนดเป้าหมายการสนับสนุนทางการเงินระยะยาวที่ประเทศพัฒนาแล้วต้องให้แก่ประเทศกำลังพัฒนารวมถึงการระดมทุนให้ได้ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ตามเป้าหมายทางการเงินที่ได้ตกลงร่วมกันไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายดังกล่าวในขณะนี้

ทั้งนี้ ในการเจรจาประเด็นต่าง ๆ ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการกำหนดแนวทางการดำเนินงานในประเด็นต่างๆ ที่สอดคล้องกับหลักการของกรอบอนุสัญญาฯ และความตกลงปารีส มีความยืดหยุ่นต่อประเทศกำลังพัฒนาโดยคำนึงถึงสถานการณ์และขีดความสามารถของประเทศที่แตกต่างกัน พร้อมกับผลักดันให้มีการสนับสนุนการดำเนินงานของประเทศกำลังพัฒนาทั้งในด้านการลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวฯ อย่างสมดุล และคาดหวังได้ อันจะนำมาสู่การขับเคลื่อนตามเป้าหมายของประเทศได้อย่างแท้จริง

นอกจากนั้น เลขาธิการ สผ. ได้เน้นย้ำต่อที่ประชุมว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ขอให้ผู้แทนไทยเข้าร่วมการเจรจาโดยยึดถือกรอบท่าทีเจรจาของไทยสำหรับการประชุม COP26 ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการดำเนินงานภายในประเทศและแสดงถึงความรับผิดชอบของประเทศไทยต่อประชาคมโลกอย่างเป็นธรรม พร้อมทั้งได้แสดงความห่วงใยต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้แทนไทยโดยเน้นย้ำให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไว้รัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน