เมื่อ 24 ธ.ค. เดอะซันรายงานเรื่องราวคำทำนายโลกของหญิงตาบอดชาวบัลแกเรีย บาบา วางกา เจ้าของฉายานอสตราดามุสแห่งคาบสมุทรบอลข่าน ผู้เคยทำนายถึงเหตุการณ์วินาศกรรมสหรัฐ 9/11 เบร็กซิต และการผงาดขึ้นมาของกลุ่มไอเอส ได้ถูกต้อง ว่าได้ทำนายเหตุการณ์สำคัญในปีค.ศ. 2018 ไว้ด้วย
บาบา วางกาเสียชีวิตไปเมื่อปี 1996 (พ.ศ.2539) ขณะอายุ 85 ปี เป็นที่รู้จักในหมู่นักทฤษฎีสมคบคิด ด้วยความเชื่อว่า หญิงตาบอดผู้นี้มองเห็นอนาคต ทั้งเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเหตุการณ์สำคัญของโลก ก่อนมันจะเกิดเป็นเวลานาน รวมถึงคำทำนายว่าโลกจะถึงกาลดับสูญในคริสตศตวรรษที่ 51
ในปี 2018 บาบาทำนายไว้ก่อนเสียชีวิต ว่าจีนจะเป็นมหาอำนาจโลกแทนที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแนวโน้มที่น่าจะเป็นไปได้หลังจากเศรษฐกิจของจีนขยายตัวมาหลายปีแล้ว จากการถือครองสัดส่วนเศรษฐกิจโลกเมื่อปี 1970 ที่ร้อยละ 4.1 มาเป็นร้อยละ 15.6 ในปี 2015 ในขณะที่สหรัฐครองสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 16.7 แต่มีแนวโน้มลดลง จากการคาดการณ์ของนิตยสารฟอร์บส์ เชื่อว่าจะเหลือ 14.9 ในปี 2025
REUTERS/Aly Song TPX IMAGES OF THE DAY
ส่วนอีกเหตุการณ์ในปีเดียวกันนี้จะมีการค้นพบพลังงานรูปแบบใหม่บนดาวศุกร์ หรือวีนัส กรณีนี้ยังน่าสงสัยเพราะยังไม่มีภารกิจอวกาศใดไปยังดาวศุกร์ แต่มีโครงการสำรวจดวงอาทิตย์ Parker Solar Probe ที่จะส่งยานเดินทางไปกลางเดือนกรกฎาคม 2018 เพื่อไปสำรวจสนามแม่เหล็กรอบดวงอาทิตย์
สำหรับคำทำนายเดิมของบาบา วางกา ที่ทำให้ผู้คนถึงกับอึ้งก็คือ เหตุวินาศกรรม 9/11 ในวันที่ 11 กันยายน 2011 (พ.ศ.2544) ว่า “น่ากลัว น่ากลัว! ตึกคู่ของอเมริกันถูกนกเหล็ก 2 ตัวพุ่งเข้าใส่จนถล่ม หมาป่าจะหอนจากทุ่งหญ้า เลือดผู้บริสุทธิ์จะไหลนอง”
นอกจากนี้คำทำนายยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรปว่า “ยุโรปที่เรารู้จักจะสิ้นสุดไปสู่การถอนตัวภายในปี 2016” และเตือนว่า “กองทัพมุสลิมที่สุดขั้วจะบุกยุโรปในปีเดียวกัน” ซึ่งคนตีความได้ว่าหมายถึงการก่อการร้ายของไอเอสในยุโรป
สำหรับในอนาคตอื่นๆ บาบาเตือนว่าโลกจะเข้าสู่ยุคหิวโหยในปี 2028 อาณานิคมแห่งดาวอังคารจะครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ในปี 2256 และโลกจะอยู่อาศัยไม่ได้อีกนับจากปี 2341
