วันที่ 25 ธ.ค. เว็บไซต์คอมโซมอลสกายา ปราฟดา ของรัสเซียรายงานว่า แพทย์พบตะปู สกรู และสลักเกลียว รวมกว่า 150 ชิ้น ในกระเพาะอาหารของคุณยายวัย 74 ปี โดยบังเอิญ หลังเข้ารับการรักษาอาการหลอดเลือดสมอง (Stroke) ที่โรงพยาบาลคลินิก แอน. อา. เซมัชโค วาเลนติน โปมีชิน (Н. А. Семашко Валентин Помишин) สาธารณรัฐบูเรียตียา ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย
โรงพยาบาลคลินิก Н. А. Семашко Валентин Помишин
รายงานระบุว่า คุณยายถูกนำตัวมาโรงพยาบาล ไม่ได้ปวดท้องหรือรู้สึกไม่สบายอะไร แม้ว่าจะรักษาคุณยายจนพ้นขั้นวิกฤตแล้ว แต่ร่างกายยังมีไข้ขึ้นสูง จึงส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น และเจอวัตถุแปลกปลอมจำนวนมาก ในขั้นแรก แพทย์ดึงตะปูแหลม 4 ตัว ออกมาก่อน ซึ่งเสี่ยงอันตรายต่อร่างกาย ก่อนจะเรียกศัลยแพทย์มา
โรงพยาบาลคลินิก Н. А. Семашко Валентин Помишин
แพทย์ทำการเอ็กซเรย์คุณยายทันที และเจอวัตถุแปลกปลอมขนาดใหญ่ในกระเพาะอาหารอีก ซึ่งจะเจาะผนังกระเพาะอาหารและเป็นอันตราย จึงต้องผ่าตัดฉุกเฉินคุณยาย และเอาวัตถุแปลกปลอมทั้งหมดออกมาในที่สุด ได้แก่ ตะปูตัวยาว, สกรูตัวใหญ่, สลักเกลียว, น็อต, กลอนประตู, ชิ้นส่วนเหล็กเส้นยาว 15 ซม. และโซ่เงิน รวมทั้งหมด 152 ชิ้น
โรงพยาบาลคลินิก Н. А. Семашко Валентин Помишин
แพทย์ระบุว่า หลังการรักษาหลอดเลือดสมอง คุณยายสูญเสียการพูดบางส่วน ขณะที่ครอบครัวเปิดเผยว่า คุณยายไม่รับรู้รสชาติ (Taste preference) และมีอาการจิตเภท ขณะนี้แพทย์เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดในไอซียู อาการยังทรงตัว
ล่าสุด สำนักข่าวแมชของรัสเซียรายงานว่า นางนีนา อินโนเคนต์เยวา คุณยายที่รับประทานเหล็กเข้าไป พ้นขีดอันตรายแล้ว พร้อมเปิดเผยรายละเอียดว่า คุณยายนีนารับประทานตะปูและสกรูติดต่อกัน 14 ปีแล้ว เนื่องจากแพทย์เคยวินิจฉัยว่าเป็นโรคโลหิตจาง ซึ่งร่างกายได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ
คุณยายนีนาจึงเริ่มรับประทาน “ธาตุเหล็ก” ทันทีหลังแพทย์วินิจฉัย เพื่อป้องกันโรคโลหิตจาง ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีอาการหลอดเลือดสมอง เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. นอกจากนี้ นางนีนายังมีอาการจิตเภทควบคู่ด้วย
