โลตัส‘ ในฐานะผู้นำธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ในไทย เชื่อมั่นว่าการสร้างโอกาสให้ได้มากที่สุดเป็นสิ่งสำคัญของโลกเอสเอ็มอี จึงได้ผนึกกำลังกับ กระทรวงพาณิชย์ และคู่ค้าเอสเอ็มอี กว่า 1,600 ราย เปิดโครงการ ‘รวมพลังลดใหญ่ สนับสนุนเอสเอ็มอีไทย ให้เติบโตไปด้วยกัน’ โดยจัดพื้นที่ส่งเสริมการขายพิเศษในไฮเปอร์มาร์เก็ต 133 สาขาทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์สินค้าให้กับผู้ประกอบการ SME สนับสนุนให้เอสเอ็มอีและเกษตรกรไทยมีรายได้ที่มั่นคง และยั่งยืน

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย เปิดเผยว่า โลตัสมีความมุ่งมั่นการเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาสให้กับเอสเอ็มอี และเกษตรกรไทย ด้วยการเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าทั้งรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ กว่า 2,100 สาขาทั่วประเทศ และเป็นพันธมิตรที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาศักยภาพรอบด้าน ทั้งด้านมาตรฐานคุณภาพสินค้า การตลาด และการจัดจำหน่าย รวมถึงการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ

“ตลอดทั้งปี 2564 เราได้ให้การสนับสนุนกับเอสเอ็มอี และเกษตรกรเกือบ 7,000 ราย ให้สามารถเพิ่มรายได้และโอกาสในการเติบโตที่ยั่งยืน ผ่านกิจกรรม Online Business Matching รวมถึงการมอบพื้นที่ให้จำหน่ายสินค้าโดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่อีกด้วย”

โครงการรวมพลังลดใหญ่ สนับสนุน SME ไทยให้เติบโตไปด้วยกัน จัดขึ้นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 6 มกราคม – 2 มีนาคม 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เอสเอ็มอี สามารถเพิ่มยอดขาย ผ่านการจัดโปรโมชันที่น่าสนใจ และรูปแบบการจัดวางสินค้าในพื้นที่ที่มีความโดดเด่น และช่องทางออนไลน์ รวมถึงการสื่อสารให้ประชาชนรับทราบในวงกว้าง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงของลูกค้าทั่วประเทศ

นายสมพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับสินค้าที่เข้าร่วมโครงการมีทจำนวนมากกว่า 17,000 รายการ ซึ่งโลตัสมีความเชื่อมั่นว่า สินค้าจากเอสเอ็มอีและเกษตรกรเหล่านี้ เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ เป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน

ด้าน นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงบทบาทสำคัญของการร่วมโครงการฯ ครั้งนี้ ว่า ถือเป็นการช่วยให้เอสเอ็มอี และเกษตรกรไทย มีช่องทางการสื่อสารและจำหน่ายสินค้าสู่ตลาดที่กว้างขึ้น ผ่านช่องทางของโลตัสที่มีอยู่ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่า การร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถ สู่การเติบโตอย่างแข็งแรงได้

ขณะที่ น.ส.ณิชชา มหาอัฑฒ์สกุล ผู้บริหาร หจก. สกลทรัพย์เพิ่มพูน ตลอดมาโลตัส ได้ให้การสนับสนุนและผลักดันอย่างดีมาโดยตลอด จนได้รับการรับรองมาตรฐานด้วยเครื่องหมาย Thailand Textile Tag แสดงถึงสินค้าที่ได้คุณภาพ มาตรฐานที่ดี ปลอดภัยกับร่างกายและสิ่งแวดล้อม โดยสินค้าที่นำมาร่วมโครงการฯ ครั้งนี้มีมากกว่า 150 รายการ เช่น เสื้อฮาวาย กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด และเสื้อพิมพ์ลาย เป็นต้น นอกจากนั้น การทำงานร่วมกับโลตัส ยังเป็นการช่วยสนับสนุนการสร้างอาชีพ และรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนที่เราอยู่อีกด้วย

เช่นเดียวกันกับ นางสาวศรี ปานสูง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.ดี.เจ.อินเตอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า กว่า 10 ปีที่ได้ที่ได้ร่วมมือกับโลตัส ล้วนได้รับรับผลรับที่ดีเสมอมา ซึ่งส่งผลให้มียอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถส่งสินค้าออกสู่ต่างประเทศ และขยายโรงงานเพิ่มขึ้นได้

ส่วน นายธนากร ลิ้มธานินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวิทซเฟลคซ จำกัด เปิดเผยว่า เราเริ่มทำงานร่วมกับทางโลตัสในปีที่ผ่านมา ในช่วงเริ่มต้นมีสินค้าวางจำหน่ายที่โลตัส 6 รายการ ซึ่งได้รับการสนันสนุนมาอย่างต่อเนื่อง แม้ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 มีการเพิ่มจำนวนสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมากยิ่งขึ้น ทำให้ในปัจจุบันเรามีสินค้าวางขายในโลตัส กว่า 40 รายการ และสำหรับโครงการนี้ เรามีการจัดสินค้าคุณภาพดีไซน์สวย มากมายนำเสนอให้กับลูกค้า อาทิ เครื่องอบแห้ง เตารีดไอน้ำไร้สาย และเครื่องดูดฝุ่น

ทั้งนี้ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการรวมพลังลดใหญ่ สนับสนุน SME ไทยให้เติบโตไปด้วยกัน จะจัดต่อเนื่องจนถึงวันที่ 2 มีนาคม 2565 โดยมีสินค้ามาร่วมจัดโปรโมชันและสื่อสารมากกว่า 17,000 รายการ ประชาชนที่สน สามารถสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้แล้ว บนช่องทางออนไลน์ และที่โลตัสกว่า 2,100 สาขาทั่วประเทศ

“โลตัส จะเดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่อไป พร้อมต่อยอดการเป็น แพลตฟอร์มแห่งโอกาส เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน