เมื่อวันที่ 15 ก.พ. นักแสดงสาวชาวฟิลิปปินส์ ไมร์เติล ซาร์โรซา วัย 23 ปี ได้โพสต์ข้อความลงบนเพจเฟสบุ๊ก “Myrtle Sarrosa”ของเธอ โดยเล่าถึงประสบการณ์ที่น่ากลัวที่เธอและเพื่อนได้เจอ ขณะขับรถจากซาร์มา ไปยัง ตักโลบัน ที่ประเทศฟิลิปปินส์

โดยไมร์เติลเล่าว่า..

ในวันนั้นเธอและเพื่อน กำลังกลับมาจากทัวร์จิตอาสาของโรงเรียน หลังจากติดพายุไต้ฝุ่นระลอกที่สองอยู่สองวัน

ซึ่งพวกเธออยู่ร่วมค่ายของโรงเรียนได้ถึงแค่วันที่ 14 ก.พ. ก็ต้องกลับก่อน เพราะว่าบริเวณหน่วยที่พวกเธอเข้าร่วมโครงการนั้น มีน้ำท่วมราว 6 ฟุต ทำให้รถของพวกเธอไม่สามารถข้ามเส้นทางได้ และเส้นทางอื่นๆก็ถูกแผ่นดินถล่ม จึงต้องเดินทางไปยังสนามบินตักโลบัน เพื่อเดินทางกลับ

ซึ่งวันนั้นพวกเธอต้องรอจนถึงช่วงเวลาค่ำ เพื่อให้ฝนหยุดตก และเพื่อให้เจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่บนถนนที่ถูกดินถล่มปกคลุม ถนนสายนี้ยาวมาก ไม่มีไฟถนน และไม่มีบ้านคนตลอดเส้นทาง ทั้งสองข้างทางมีแต่ต้นไม้

จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.40 น. พวกเธอก็ได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่แปลกมาก เมื่อจู่เด็กใส่เสื้อสีฟ้าอ่อน อายุราวๆ 10 ขวบ มาอยู่กลางถนนเปลี่ยวคนเดียว โดยเขานั่งคู้ตัว เอามือประสานไว้บนหัว

ในตอนนั้นเธอและเพื่อนๆแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา เพราะแถวนั้นไม่มีบ้านคนอยู่เลย และเกิดคำถามขึ้นมาในหัว “ถ้ารถเราขับผ่านไปล่ะ เขาจะนอนบนถนนหรอ นี่มันผิดปกติ”

พวกเธอร้องกรี๊ดออกมา ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว แต่คนที่นั่งมาบนรถด้วยกัน หลายๆคนก็เห็นเช่นเดียวกัน

พวกเธอต้องการที่จะหยุดรถ และกลับไปดูเด็กคนนั้น แต่ก็มีความระแวงกับสิ่งที่เห็นอยู่พอสมควร จึงตัดสินใจที่จะเช็คกล้องติดหน้ารถก่อน ถ้าหลังจากเช็คแล้วเป็นเด็กจริงๆค่อยกลับไปรับ แต่หลังจากเช็คกล้องแล้วปรากฏว่า สิ่งที่พวกเธอเห็นในกล้องเป็นวัตถุทรงคล้ายกับหยดน้ำสีฟ้า ที่จู่ๆภาพก็หายไปหลังจากนั้นไม่กี่วินาที

คุณ “ลอง” คนขับรถที่ค่ายจิตอาสา เล่าว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้ เคยเกิดขึ้นกลับนักท่องเที่ยวมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ซึ่งเเขาเชื่อว่าบางครั้งอาจเป็นวิญญาณของเด็กที่เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่น

ขณะที่เจ้าหน้าที่เล่าให้เราฟังว่า บริเวณที่ขับรถผ่านมานั้นอาจจะเป็นแถวๆ “เมดัวลง” ในซาร์มาตะวันออก ที่คนเฒ่าคนแก่เล่าต่อๆกันมาว่ามักจะมีเรื่องแปลกๆที่เหนือธรรมชาติ เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง

เธอกล่าวต่อว่า..

“เราอยากที่จะหยุดรถจริงๆ แต่มีคนเคยเตือนไว้ว่าอย่าหยุดรถ หากเจอเรื่องราวแปลกๆบนท้องถนน เพราะมันปลอดภัยและไม่คุ้มเสี่ยง แต่ฉันก็ไม่อาจลบภาพเด็กชายที่อยู่ในสมองได้เลย ฉันเห็นใบหน้าขาวซีดของเขา ท่าทางของเขา จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่รู้ และคิดว่าถ้าเขาเป็นวิญญาณจริงๆ ก็หวังว่าเขาจะไปสู่สุขติ แต่ถ้าเขาเป็นเด็กจริงๆ ความรู้สึกผิดคงจะตราตรึงอยู่ในใจไปอีกนาน”

อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องราวได้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็ต่างคอมเมนต์ว่า สิ่งที่เธอทำถูกต้องแล้ว เพราะหากจอดรถลงไปดู อาจจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพก็เป็นได้ จึงก็เป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถใช้ถนนควรระวัง ในการขับรถช่วงเวลากลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเส้นทางที่ไม่คุ้นชิน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน