ปลัดมท. เป็นประธานถอนเสาไฟฟ้าแรงสูงต้นสุดท้าย โครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายเป็นเคเบิลใต้ดิน บริเวณสี่แยกวัดคูหาสวรรค์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เน้นย้ำ ร่วมกันสนองพระราชปณิธาน “แก้ไขในสิ่งผิด” พัฒนาสภาพแวดล้อมและภูมิทัศน์เมืองพิษณุโลกให้เป็นพื้นที่แห่งความสุข เพื่อทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน

วันนี้ (1 ก.พ. 67) เวลา 09.00 น. ที่บริเวณแยกวัดคูหาสวรรค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีถอนเสาไฟฟ้าแรงสูงต้นสุดท้าย โครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายเป็นเคเบิลใต้ดินบริเวณสี่แยกวัดคูหาสวรรค์ เพื่อสนับสนุนและปรับปรุงภูมิทัศน์โครงการพัฒนาและฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำ คูเมืองจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้รับเมตตาจากพระครูประทีปธรรมานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์ ร่วมในพิธี โดยมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะประธานกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายศิริพันธ์ ศรีกงพลี รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ว่าที่ร้อยเอก ธีรพงศ์ ครุธดิลกานันท์ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายมงคล ตรีกิจจานนท์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สายงานภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นางนฤมล ล้อมทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหศีนิมา จำกัด อาจารย์ขวัญทอง สอนศิริ (อ.โจ้) ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นางประเสริฐสุข เพฑูรย์สิทธิชัย นางสุจิตรา ศรีนาม ที่ปรึกษานายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และภาคีเครือข่าย ร่วมในพิธี โดยมี นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ 9 อำเภอ ดร.เปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล และพนักงานเทศบาล ร่วมให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถวายความเคารพแล้วถวายธูปเทียนแพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนำผู้ร่วมพิธี ขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เสร็จแล้ว กล่าวเปิด และนำผู้ร่วมพิธี ร่วมกดปุ่มพิธีถอนเสาไฟฟ้าแรงสูงต้นสุดท้าย โครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายเป็นเคเบิลใต้ตินบริเวณสี่แยกวัดคูหาสวรรค์ เพื่อสนับสนุนและปรับปรุงภูมิทัศน์โครงการพัฒนาและฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำ คูเมืองจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมรับชมการแสดงนาฏยประดิษฐ์ ระบำพิษณุโลก – เตาไห โดยนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือ จบแล้ว ร่วมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ผู้พันไก่สะสมของโบราณพิษณุโลก และขึ้นรถไฟฟ้าเยี่ยมชมคูเมืองจังหวัดพิษณุโลก

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นแน่วแน่ในการน้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งมาดปรารถนาทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งกระทรวงมหาดไทยโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้น้อมนำมาเป็นหลักชัยหนุนเสริมพลังแห่งความจงรักภักดี อัญเชิญเป็นป้ายประดับไว้ ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อให้ข้าราชการทุกคนผู้เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มุ่งมั่นดูแล “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน ทำหน้าที่เป็นผู้รับใช้พี่น้องประชาชน ทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข ด้วยการ “แก้ไขในสิ่งผิด” ซึ่งในวันนี้เราได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่คูเมืองเก่าของพิษณุโลกจากเคยผิดพลาด สกปรก รกรุงรัง จนมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม ภายใต้ความร่วมมือของผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตลอดจนภาคีเครือข่าย ช่วยกันสนองแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการพัฒนาฟื้นฟูแหล่งน้ำ คู คลอง ร่วมกันในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับทุกจังหวัดคัดเลือกแหล่งน้ำ คู คลอง เพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขในสิ่งผิด ทำให้แม่น้ำคูคลองของเรากลับไปเป็นแหล่งน้ำที่สะอาดสวยงามดังเดิม

“ในปี 2567 นี้ อันเป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 เป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จังหวัดพิษณุโลกภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกได้ร่วมกับท่านนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก และผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มุ่งมั่นร่วมกันพัฒนาสถานที่สำคัญของจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะบริเวณวัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร (วัดใหญ่) ให้มีความสวยงาม ไม่รกรุงรัง ด้วยการนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงดินควบคู่กับการพัฒนาแหล่งน้ำ นำมาซึ่งทัศนียภาพอันสวยงาม ซึ่งที่มาของการร่วมกันน้อมนำพระราชปณิธานสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมนี้ ด้วยเพราะกระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับการน้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร คือ ร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์ ด้วยกลไกภาคีเครือข่ายตามศาสตร์พระราชา โดยมีภาคีเครือข่ายภาควิชาการ คือ อาจารย์โจ้ ขวัญทอง สอนศิริ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้เป็นปราชญ์ชาวบ้านของชาวพิษณุโลก เป็นผู้ให้ข้อมูลและบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่แห่งความยั่งยืน เพราะแม่น้ำคูคลองที่สะอาด สายไฟที่ลงใต้ดิน ภูมิทัศน์โดยรอบที่เป็นระเบียบเรียบร้อยในวันนี้ ไม่ได้สวยงามเพียงเฉพาะในสายตาของพวกเรา แต่จะสวยงามเพราะได้ช่วยสร้างความสุขให้กับคนพิษณุโลก ทั้งในเรื่องของสุขภาพจิตและความภาคภูมิใจ และยังจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของจังหวัดพิษณุโลกให้ดียิ่งขึ้น จึงต้องขอขอบคุณอาจารย์โจ้ ตลอดจนถึงประธานคณะกรรมการ คณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมทั้งภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน โดยสิ่งที่ทุกท่านจะต้องทำกันอย่างต่อเนื่อง คือ การช่วยกันดูแลทำให้วัดใหญ่ของเรามีความสวยงาม เพื่อทำให้ประชาชนทุกคนมีความสุขตลอดไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งสำคัญหลังจากที่พวกเราได้เริ่มต้นในวันนี้ เราต้องยึดมั่นในคำว่า “ความต่อเนื่อง” ด้วยการอาศัยความร่วมมือของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลกทุกคน ช่วยกันทำนุบำรุงดูแลรักษาสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ไม่ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำคูคลอง ไม่ติดป้ายโฆษณาบริเวณสถานที่สำคัญ ซึ่งตนมั่นใจว่าคนพิษณุโลกในฐานะลูกหลานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้มีความจงรักภักดียอมเสียสละเลือดเนื้อเพื่อแผ่นดินตั้งแต่ในอดีตจนปัจจุบัน จะช่วยกันทำให้ยั่งยืนและจะขยายสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งแผ่ขยายไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศได้ ขอให้ช่วยกันดูแลแม่น้ำคูคลองทุกแห่งหนในผืนแผ่นดินไทยให้มีความสวยงามเหมือนที่เราเห็นบริเวณคูเมืองแยกวัดคูหาสวรรค์ซึ่งมีทัศนียภาพสดใส เพื่อทำให้ผู้คน นักท่องเที่ยวอยากจะมาเที่ยว มาทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประชาชนดีขึ้น คุณภาพชีวิตของประชาชนก็จะดีขึ้นอย่างยั่งยืน อันเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ด้วยการปฏิบัติบูชา น้อมนำพระราชดำริเพื่อทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” อย่างยั่งยืน

นายมงคล ตรีกิจจานนท์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สายงานภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ดำเนินโครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายเหนือดินเป็นระบบเคเบิลใต้ดินบริเวณสี่แยกวัดคูหาสวรรค์ เพื่อสนับสนุนและปรับปรุงภูมิทัศน์โครงการพัฒนาและฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำ คูเมืองจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีการดำเนินโครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายเหนือดินเป็นระบบเคเบิลใต้ดิน ระยะทางรวมทั้งหมด 625 เมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 8,720,000 บาท เริ่มก่อสร้างดำเนินการ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 แล้วเสร็จในวันที่ 27 มกราคม 2567 รวมระยะเวลาดำเนินการทั้งสิ้นจำนวน 51 วัน

ด้าน ดร.เปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลกได้พิจารณาเสนอชื่อแหล่งน้ำ คูเมืองจังหวัดพิษณุโลก ถนนสิงหวัฒน์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก เป็นสถานที่ในการพัฒนาและฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566 ทั้งนี้ คูเมืองจังหวัดพิษณุโลก อยู่ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ซึ่งเป็นคูเมืองเก่าแก่สมัยอดีต และเป็นที่รองรับน้ำ ระบายน้ำในเขตเมืองลงสู่แม่น้ำน่าน ประกอบกับเป็นแหล่งสวนสาธารณะอีกแห่งหนึ่งของเมืองพิษณุโลกปัจจุบัน สภาพคลอง (คูเมือง) กว้างประมาณ 25 เมตร ความยาวประมาณ 1,390 เมตร เป็นที่รองรับน้ำ ระบายน้ำในเขตเมืองลงสู่แม่น้ำน่าน ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ถนนสิงหวัฒน์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก ซึ่งนับได้ว่าเป็นแหล่งน้ำอีกแหล่งหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลกที่อยู่ในย่านใจกลางเมือง สามารถที่จะปรับปรุง พัฒนาและยกระดับให้เป็นสถานท่องเที่ยวหรือจุด Landmark ที่สำคัญ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาเยี่ยมชมและมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกได้ในอนาคต โดยเทศบาลนครพิษณุโลก ในฐานะหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว โดยได้ประสานความร่วมมือร่วมใจกันดำเนินการพัฒนาและฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาคูเมืองจังหวัดพิษณุโลก พร้อมทั้งภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดการพัฒนา และยกระดับให้คูเมืองจังหวัดพิษณุโลกเป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดพิษณุโลกต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน