ชาวไร่ยาสูบอีสาน ร้อง “สุทิน” วอนช่วยสั่งการทหารทุกเหล่าทัพ ปราบบุหรี่เถื่อน ตามแนวชายแดนทั้งทางบก-ทะเล หลังพบขายเกลื่อนหลายจังหวัด

ในงานฉลองสมโภชพระธาตุรัตนมงคลอุโบสถ วัดบ้านหนองไหล อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งอยู่ในพื้นที่ปลูกยาสูบ ตัวแทนสมาคมการค้าชาวไร่ยาสูบเตอร์กีซภาคอีสาน ได้ยื่นหนังสือต่อ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ที่มาร่วมงาน เพื่อเรียกร้องให้มีการสั่งการไปยังทหารทุกเหล่าทัพในการร่วมกันปราบปราม และจับกุมบุหรี่เถื่อนตามแนวชายแดน ทั้งทางบกและทางทะเลอย่างเคร่งครัด

โดยเฉพาะทางบกในภาคตะวันออก และทางทะเลในภาคใต้ ที่เป็นช่องทางที่สำคัญของการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายในประเทศไทย ซึ่งกินส่วนแบ่งการตลาดไปเกือบถึง 1 ใน 4 ของตลาดยาสูบปัจจุบัน

นายสันต์ หารสุโพธิ์ ตัวแทนชาวไร่ยาสูบอีสาน กล่าวว่า นายสุทิน เป็น สส. ที่ช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบในภาคอีสานมาอย่างยาวนานตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ตนและพี่น้องชาวไร่ยาสูบหวังว่า นายสุทินจะคอยช่วยเหลือพี่น้องชาวไร่ยาสูบในภาคอีสานต่อไป

เพราะตอนนี้อุตสาหกรรมยาสูบอ่อนแอมาก จากปัญหาบุหรี่เถื่อนที่รุกหนัก กระทบถึงความเป็นอยู่ของชาวไร่ยาสูบที่พึ่งพาโควตาการปลูกจากการยาสูบแห่งประเทศไทย แต่เมื่อบุหรี่ถูกกฎหมายสู้บุหรี่เถื่อนไม่ได้ โควตาก็ไม่เพิ่ม การปลูกยาสูบหมุนเวียนกับพืชชนิดอื่นก็ทำให้รายได้ที่ควรได้ในช่วงนี้หายไป

โดยปกติแล้วจะใช้เป็นเงินสำรองด้านการศึกษาของบุตรหลานในช่วงภาคการศึกษาใหม่ที่กำลังจะมาถึง ดังนั้น ตนและพี่น้องสมาชิกสมาคมฯ จึงหวังพึ่ง รมว.กลาโหม ให้ช่วยสั่งการเรื่องนี้ลงไปยังเหล่าทัพต่างๆ เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

รวมทั้ง น.ส.ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ที่มาร่วมงานก็ได้พบปะพูดคุยกับชาวไร่ยาสูบ และได้รับปากว่าจะเร่งรัดดำเนินการเพื่อช่วยเหลือปราบปรามเรื่องของบุหรี่เถื่อน รวมทั้งจะนำหนังสือของชาวไร่ยาสูบนำเรียนและชี้แจงกับนายกรัฐมนตรีในโอกาสต่อไป

“ที่ผ่านมามีการจับกุมบุหรี่เถื่อนอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐ แต่ชาวไร่ยาสูบมองว่า หากมีการจับกุมตั้งแต่ช่วงการนำเข้าตามพรหมแดนธรรมชาติทั้งทางบก และทางทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่ใต้การดูแลของทหาร จะช่วยลดการแพร่กระจายของบุหรี่เถื่อนในประเทศได้ เพราะเมื่อข้ามชายแดนมาได้แล้วก็ไม่ยากเลยที่จะกระจายสินค้าผิดกฎหมายเหล่านี้ไปตามที่ต่างๆ ผ่านพัสดุไปรษณีย์หรือขนส่งทางบก” นายสันต์ กล่าว








Advertisement

นายสันต์ ระบุด้วยว่า ปัจจุบันในพื้นที่ภาคอีสานมีชาวไร่ยาสูบประมาณ 15,000 ครัวเรือนใน 8 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, นครพนม, สกลนคร, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี และหนองคาย ปลูกยาสูบพันธุ์เตอร์กีซเป็นหลัก

โดยฤดูกาลปลูกจะเริ่มในช่วงต้นเดือน พ.ย.จนถึงเดือน เม.ย. การปลูกยาสูบเตอร์กิซจะช่วยสร้างรายได้ให้ชาวไร่ยาสูบเฉลี่ยไร่ละ 16,000 บาท ทำให้ชาวไร่ยาสูบมีหลักประกันรายได้ที่มั่นคงเพียงพอในช่วงฤดูแล้ง และสามารถนำเงินไปลงทุนทำการเกษตรหมุนเวียนพืชอื่นๆ ในฤดูฝนถัดไป รวมถึงเพียงพอต่อการดำรงชีพของครอบครัวด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน