เมื่อเงินทองกลายเป็นสิ่งที่กระทบต่อชีวิตคู่ สมาชิกหมายเลข 4455027 เว็บไซต์ Pantip ได้โพสต์ระบาย “กำลังจะแต่งงาน แต่กังวลภาระแฟน หาทางออกยากมาก โดนมองว่าเห็นแก่ตัว อึดอัดพูดไม่ออก คุยกับแฟนก็มีแต่พัง” ระบุรายละเอียดว่า นี่กระทู้แรกในชีวิต ขอระบายหน่อยครับ อีกไม่กี่เดือนจะแต่งงานแล้ว ผมบอกก่อนเลย ผมเงินเดือนน้อยกว่าแฟนประมาณ 10,000 บาท เป็นคนไม่มีหนี้สิน มีบ้านแล้วของคุณพ่อเพิ่งสร้าง มา 5 ปี ท่านกะให้เป็นเรือนหอด้วย มีรถแล้ว เป็นชื่อของแม่ คุณแม่แยกกับคุณพ่อแล้ว รถซื้อมา 2 ปี คุณแม่บอกให้เอาไปสร้างตัว
หนี้สินก่อนแต่ง = 0 บาท พร้อมเริ่มต้นชีวิตครอบครัวแล้ว ตัดกับมาแฟนคนนี้คบมานาน ปีนี้ก็เข้าปีที่ 7 ละ เลยตัดสินใจแต่งงานกัน มารู้ว่าเขามีภาระคือ
1.ต้องผ่อนบ้าน ให้ทางบ้านและน้องๆ เป็นระยะเวลา 30 ปี ตกเดือนละประมาณ 40% ของเงินเดือน
2 มีน้อง 2 คน เรียนจบแล้วทั้งคู่ มีงานทำละ แต่ อินดี้ รักในการเป็นนายของตัวเองเลือกงานอิสระ เงินเดือนคาดเดาไม่ได้ แต่ในมุมมองของแฟนคือน้องน่าสงสารมาก เงินไม่มี เงินเดือนไม่มั่นคง เลยไม่คิดให้มาช่วยเป็นกำลังเท่าไหร่ ง่ายๆคือมีก็ช่วยไม่มีก็ไม่เป็นไร
ผมถาม : น้องไม่ให้มาช่วยบ้างหรือ คำตอบ น้องงานไม่มั่นคงเงินเดือนไม่มี ถ้ามีก็ให้มาช่วยเป็นก้อนๆ (ซึ่งดูมาโดยตลอดไม่เคยมี)
ผมถาม : ถ้าไม่มั่นคงแล้วทำไมไม่ไปทำงานกินเงินเดือน เออน้อยหน่อย แต่ว่าเรามีภาระก็ต้องทนไหม คำตอบ : น้องไม่ชอบ ไม่อยากบังคับ
3. พอคุยกันเรื่องนี้ทีไร ผมพยายามบอกให้เขาเข้าใจว่าชีวิต มันต้องมองล่วงหน้า ต้องมีสำรอง ถ้าไม่มีเลยเจ็บป่วยทำไง ก็ตอบแบบคนมีวิสัยที่ติดลบพอควร
ผมถาม : เจ็บป่วยทำอย่างไร คำตอบ 30 บาทมี
ผมถาม : ถ้าครอบครัวเจ็บป่วยทำอย่างไร คำตอบ 30 บาทมี
ผมถาม : ถ้าเป็นอะไรไปทำยังไง คนข้างหลัง คำตอบ มีประกันชีวิต
4.ถ้ามีลูกหละ หมดไปกับค่าผ่อนบ้านแทบจะครึ่งเงินเดือน เหลือใช้นิดเดียว จะเอาเงินที่ได้เลี้ยงลูก ผมอะพอไหว แต่ถ้าจะให้ดีอยากให้ช่วยกัน เพราะเป็นครอบครัวแล้ว คำตอบคือ ถ้าไม่ไหวก็ ไม่ต้องมี
5 ถ้าผ่อนไม่ไหวจริงๆ ทำยังไง คำตอบคือ 1.คือขายรถ(รถแฟน) 2.คือปล่อยให้โดนยึดไป
สุดท้ายพอถามเรื่องพวกนี้ ก็จะโดนพูดว่าอย่ามายุ่งเรื่องบ้านของแฟน ถ้ากลัวจะมาเกาะก็อย่ามาแต่ง หนักเข้าๆเวลาโมโห โดนประจำอย่ามา เสื.ก ผมแอบคิดเสมอนะว่าถ้าเขาไม่ไหวยังไงก็ไม่พ้นเรา แต่ไม่เข้าใจเลย ทำไมเราถามเพื่อเป็นห่วงอยากหาทางออกให้ อยากให้คนอื่นมาช่วยแฟนบ้าง น้องก็มีแถมตัวเองก็เป็นคนอยู่ แต่โดนตอกกลับตลอด ทำให้ไม่อยากช่วยเลย ถามใจว่าอยากแต่งไหมตอบว่า อยากนะรักมาก แต่ก็มีอีกมุมคอยแย้งตัวเองตลอดว่าถ้าแต่งเข้ามาชีวิตเราจะเป็นแบบไหน
พ่อแม่ผมทิ้งสมบัติที่เหนื่อยมาทั้งชีวิตไว้ให้ สุดท้ายผมต้องสมบัติพ่อแม่มาโปะให้กับครอบครัวอื่นที่ไม่มีการวางแผนชีวิตการเงินจริงๆหรือ ผมเคยบอกตั้งแต่ก่อนจะซื้อบ้านของแฟนแล้วว่า มันใหญ่เกินไป มันหนักเกินตัว ก็ได้แต่คำตอบโง่ๆ คือ พ่อชอบ น้องชอบ ผมมันเห็นแก่ตัวจริงๆหรือ ที่ห่วงแฟนกลัวว่าซักวันนึงไม่ไหวจะอยู่อย่างไร ถ้าผมเข้าไปช่วย ผมจะมองหน้าพ่อหน้าแม่ติดไหมว่าเอาเงินที่ท่านหามาไปให้คนอื่นที่ไม่เคยฟังเมื่อเตือน ผมอึดอัดมากเลย อัดอัดมากจริงๆ
