นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่ากรมเตรียมจัดงานเปิดบ้านงานวิจัยกรมวิชาการเกษตรประจำปี 2567ระหว่างวันที่19-22 กันยายน 67 ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 55 พรรษา กรมวิชาการเกษตร
ภายใต้หัวข้อ จุดประกายพลังวิจัย ขับเคลื่อนเกษตรไทยอย่างยั่งยืน เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยที่มีศักยภาพมีความพร้อมที่จะใช้ประโยชน์และขยายผลนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนตามนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้เกษตรกร
และนโยบาย IGNITE THAILAND : AGRICULTURE HUB ยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก โดยงานวิจัยที่นำมาแสดงปีนี้เป็นผลสำเร็จของบุคลากรกรมวิชาการเกษตร(กวก.)เป้าหมายคือพัฒนายกระดับการเกษตรของประเทศนำมาสู่การเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรเป็น 3 เท่าใน 4ปีตามนโยบายของรัฐบาล
“พันธกิจงานวิจัยของกรมคือต้องตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรและตลาดผู้บริโภครวมถึงการพัฒนาพันธุ์พืชให้มีปริมาณผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อรายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้นและลดการนำเข้า อีกทั้งจะต้องตอบโจทย์เรื่องคุณภาพผลผลิต การต้านทานโรคพืชและแมลงศัตรูพืช การเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการเพื่อรองรับความมั่นคงอาหาร โดยเฉพาะเมื่อมีประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องการรับรองสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาจากเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนมเพื่อใช้ประโยชน์ในภาคการเกษตร พ.ศ. 2567 ออกมาซึ่งจะส่งผลให้สามารถพัฒนาพืชได้ตรงโจทย์ความต้องการของงานวิจัยได้เร็วและแม่นยำมากขึ้นรองรับนโยบายการเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์พืชของอาเซียนและของโลก นอกจากนั้นกวก.ยังมีโครงการ76จังหวัด76 โมเดล ที่คัดเลือกระดับดีเด่นใน 8ภูมิภาคของกรมและระดับประเทศ 1 โมเดล เป็นชุดความสำเร็จที่เกษตรกรทั่วประเทศสามารถนำไปเป็นตัวอย่างขยายผลพัฒนาให้มีรายได้เพิ่มขึ้นในระยะเวลาที่เร็วขึ้น เช่นสมุทรปราการโมเดลการผลิตผักปลอดภัยมูลค่าสูง หรือโครงการสุราษฏร์ธานีโมเดลการผลิตทุเรียนนอกฤดูกาล เสริมรายได้ด้วยกล้วยหอมทอง โครงการนวัตกรรมผักอินทรีย์โมเดลสู่เศรษฐีอีสานล่าง เป็นต้นโดยจะมีรายละเอียดเป็นแนวทางไว้” นายรพีภัทร์กล่าว
ทั้งนี้ปี67กรมได้รับรางวัลเลิศรัฐ 4 รางวัลเป็นการย้ำความสำเร็จการวิจัยเช่น สาขาบริการภาครัฐประเภทขับเคลื่อนเห็นผลระดับดี จากเรื่องการขับเคลื่อนกาแฟโรบัสตาศรีสะเกษ อัตลักษณ์หนึ่งเดียวพลิกวิกฤตสู่ความยั่งยืน สาขาบริการภาครัฐประเภทนวัตกรรมการบริการระดับดี จากเรื่องแผ่นเทียบสีสำหรับการเก็บเกี่ยวผลกาแฟในระยะสุกแก่ที่เหมาะสม เป็นต้น และรางวัลในระดับกรม DOA Together Award ประจำปี67 ประเภทหน่วยงานมี 2 รางวัล
คือ 1. ด้านIMPROVE ได้แก่สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร จากผลงานเรื่อง THAI-IM-PLANT Web Application(ระบบสืบค้นรายการสิ่งต้องห้ามสิ่งกำกัดและสิ่งไม่ต้องห้ามภายใต้พระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ.2507และที่แก้ไขเพิ่มเติม) 2. ด้านCOOPERATION ได้แก่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6จากผลงานเรื่องการขยายผล”จันทบุรีโมเดล”สู่การควบคุมคุณภาพทุเรียนภาคตะวันออกปี 2567
สำหรับการวิจัยในก้าวต่อไปกวก.อยู่ระหว่างการพิจารณาความเชื่อมโยงแผนงานวิจัยและโครงการวิจัยของกรมวิชาการเกษตร ตามเป้าหมายและตัวชี้วัดประจำปี 2568 – 2570 โดยปี 2568 จำนวน 68 แผนงานวิจัย ปี 2569 จำนวน 64 แผนงานวิจัย เพื่อเสนอขอรับสนับสนุนงบประมาณการวิจัยต่อไปตามแผนปฏิบัติการด้านงานวิจัยและนวัตกรรมกรมวิชาการเกษตร ปี 2568 – 2570 ซึ่งเป้าหมายคือส่งเสริมการพัฒนาการเกษตรของประเทศสู่ความมั่งคั่งยั่งยืน.