นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ในเขตพื้นที่เมืองพัทยา ในเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา พบว่า ในบางพื้นที่มีค่าฝุ่นละอองในระดับสีส้ม ซึ่งเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และบางพื้นที่มีค่าฝุ่นละอองในระดับสีแดง ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่ามาจากปัจจัยภายนอก เป็นฝุ่นที่กระจายมาจากพื้นที่อื่น ดังนั้น จึงได้มีการสั่งการให้เร่งดำเนินการแก้ไข เพื่อลดผลกระทบที่จะมีต่อสุขภาพ และการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน

“ มาตรการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ได้มอบหมายให้ สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดรถน้ำลงพื้นที่ฉีดล้างฝุ่นควันในถนนเส้นหลัก จากเดิมที่ดำเนินการเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ให้เพิ่มจำนวนรอบการฉีดล้าง พร้อมทั้งให้ฝ่ายควบคุมอาคาร สำนักช่าง ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างตามจุดต่างๆ โดยประสานขอความร่วมมือภาคเอกชนและผู้รับจ้างให้ติดสปริงเกอร์ฉีดน้ำเพื่อลดปริมาณฝุ่นอย่างต่อเนื่อง ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เมืองพัทยาจะรณรงค์ในเรื่องของนโยบาย Pattaya Go Green โดยการส่งเสริมให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมให้มีการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น”นายปรเมศวร์ กล่าว

นายปรเมศวร์ กล่าวต่อไปว่า พร้อมกันนี้ ประชาชน และนักท่องเที่ยว สามารถติดตามการรายงานสภาพอากาศเป็นประจำทุกวันโดยฝ่ายจัดการคุณภาพอากาศและเสียง ส่วนควบคุมมลพิษ สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น ผ่านทาง FB : PRPATTAYA รวมทั้งติดตามสถานการณ์ PM 2.5 และค่าระดับเสียงของเมืองพัทยา แบบ Real time monitoring ได้ที่ http://air.pattaya.go.th/ เพื่อจะได้รับทราบถึงสถานการณ์ฝุ่นควัน หรือมลภาวะต่างๆ ในพื้นที่ และเฝ้าระวังด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และขอให้ประชาชนเพิ่มความเข้มข้นในการใส่ใจสุขภาพด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน เพื่อเป็นการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 ในเบื้องต้น

นายปรเมศวร์ กล่าวอีกว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ถือเป็นปัญหาใหญ่ ที่รัฐบาลต้องมีการออกนโยบายที่มีความชัดเจนมากขึ้น เช่น การเผาป่า หรือการสร้างความตระหนักไม่ให้มีการกระทำสิ่งใดที่เพิ่มฝุ่นหรือเกิดควันพิษมากขึ้น สำหรับในส่วนของเมืองพัทยา ต้องเรียนว่า ตนในฐานะนายกเมืองพัทยา และคณะผู้บริหาร มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากต่อสถานการณ์ปัญหา PM 2.5 ที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการมาตรการต่าง ๆ เพื่อเตรียมการรับมือ และแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นดำเนินการตาม 4 เป้าหมาย 15 นโยบาย ในการแก้ปัญหาเร่งด่วน และยกระดับคุณภาพชีวิตคนพัทยา แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม

“ สิ่งที่ได้ดำเนินการแล้ว เช่น การทำ MOU ทดสอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ตามโครงการวิจัยการจัดทำแผนแม่บทและยุทธศาสตร์การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) แบบบูรณาการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในงานบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อพัฒนางานบริการและกิจกรรมสาธารณะของ “เมืองพัทยาและเทศบาลต้นแบบ” ซึ่งได้มีการร่วมมือกับบริษัทโตโยต้า ให้บริการรถสองแถว พร้อมทั้งร่วมกับมหาวิทยาลัยปทุมธานี เรื่องของรถยนต์ส่วนบุคคลและรถเช่าที่นำมาใช้ในหน่วยงานราชการ รวมถึงการเพิ่มสถานีชาร์จรถไฟฟ้าให้มากขึ้นเพื่อลดมลพิษ และเพื่อให้เมืองพัทยาเป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อผู้ที่ใช้รถไฟฟ้า” นายปรเมศวร์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน