อลังการ‘วิหารเทพวิทยาคม’ ความภูมิใจของชาวโคราช
‘วิหารเทพวิทยาคม’ – เกิดจากความเลื่อมใสและความอุตสาหวิริยะของศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชน ร่วมแรงร่วมใจรังสรรค์ขึ้น เพื่อถวาย “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” พระเกจิชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นคร ราชสีมา
เริ่มสร้างตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.2554 บนพื้นที่กลางบึงน้ำภายในวัดบ้านไร่ ขนาด 30 ไร่ บริเวณวิหารกว้าง 60 เมตร ยาว 60 เมตร
มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 1 หมื่นตารางเมตร ความสูงของวิหาร 47 เมตร ที่ใช้เหล็กกล้าก่อสร้างกว่า 8 พันตัน ใช้เซรามิกประดับตกแต่งสีสันผลงานศิลป์มากกว่า 20 ล้านชิ้น
ความพิเศษของวิหาร ออกแบบให้มีห้องใต้บาดาล มีความลึก 9 เมตร ก่อสร้างโดยการเทปูน หล่อให้เป็นโครงสร้างเพียงชิ้นเดียว จึงมีความคงทนต่อแรงดันน้ำ ไม่แตกรั่วซึม
พร้อมนำเสนอพญานาคกลางน้ำ ขนาดสูง 18 เมตร ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงการตกแต่งรายละเอียดของงานศิลป์ภายในวิหาร และติดตั้งระบบกลไกที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมบุญในรูปแบบต่างๆ โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 380 ล้านบาท
ในช่วงการก่อสร้างใกล้เสร็จ ศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อคูณ พร้อมประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธา ร่วมทำพิธีบวงสรวงเทพยดา เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2556
Advertisement
วิหารเทพวิทยาคม เป็นการจำลองเนื้อหาในพระไตรปิฎกมาไว้ในวิหาร นำเสนอเรื่องราวพุทธประวัติ พระวินัย และพระธรรมคำสอน ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผ่านสื่อที่เป็นสากลด้วยภาษาศิลปะ คนทั่วไปสามารถเห็นและรู้สึกถึงพระธรรมคำสอนได้ เพราะเป็นการรวมสถาปัตยกรรม วิศวกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน
ความอลังการและเอกลักษณ์ของวิหาร เริ่มต้นที่สะพานพญานาคซึ่งทอดกายยาวล้อมวิหารไว้ เวลาที่เดินเข้าสู่วิหารจึงเปรียบกับการเดินข้ามผ่านโลกมนุษย์สู่โลกแห่งธรรม และด้วยความที่วิหารอยู่กลางน้ำ จำเป็นต้องมีสะพานเพื่อทอดจากฝั่งไปยังตัววิหาร ผู้ออกแบบจึงสร้างประติมากรรมปูนปั้น บุด้วยกระเบื้องโมเสกอันวิจิตรชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้เป็นพญานาค 2 ตัว
เมื่อเดินข้ามสะพานพญานาคและเลี้ยวซ้ายหมุนตามเข็มนาฬิกาแล้ว สิ่งแรกที่พบ คือ ซุ้มประตูมหาบารมีทั้ง 4 ทิศ ได้แก่ ซุ้มพระอินทร์ เทพผู้มีบารมีแห่งสรวงสวรรค์ ซุ้มพระยม เทพแห่งความเป็นธรรม ซุ้มพระพิรุณ เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และความร่มเย็นเป็นสุข และซุ้มท้าวเวสสุวัณ เทพแห่งทรัพย์ ผู้พิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาและคุ้มครองดูแลโลกมนุษย์
ส่วนเสาที่รองรับหลังคาเอราวัณ ผู้ออก แบบได้นำเสนอเป็นภาพจิตรกรรมบนกระเบื้องเซรามิก มีเนื้อหาเป็นภพชาติที่พระพุทธเจ้าถือกำเนิดทั้ง 523 ชาติ ส่วนผนังรอบวิหารเป็นจิตรกรรมเรื่องทศชาติชาดก
ไฮไลต์อยู่ที่เสาด้านหนึ่ง มีผลงานศิลปะจากนักเรียนชั้นประถมของโรงเรียนต่างๆ ใน จ.นครราชสีมา ที่วาดลงในกระเบื้อง นำมาปะติดไว้เช่นกัน
เมื่อเข้าสู่ภายในวิหาร ชั้นที่ 1 จะพบกับพุทธประวัติตั้งแต่สมัยกำเนิดพระพุทธเจ้า จนถึงการเสด็จดับขันธปรินิพพาน ถ่ายทอดผ่านจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ถึง 6 ภาพ นอกจากนั้นยังมีต้นโพธิ์อธิษฐานตั้งอยู่บริเวณกลางโถง ให้ผู้คนที่เข้ามาได้อธิษฐานขอพร
ชั้นที่ 2 นำเสนอเรื่องราวตามพระวินัยปิฎก และวิวัฒนาการของพระพุทธศาสนา หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ทีมช่างจิตรกรรมได้นำเอาศีล 227 ข้อ และเรื่องราวของนิกายต่างๆ ในพุทธศาสนามาตีความเป็นเรื่องราวต่างๆ
ชั้นที่ 3 นำเสนอเรื่องราวของพระธรรมปิฎก หรือพระธรรมที่พระพุทธเจ้าได้เผยแผ่ แบ่งเป็น 84,000 พระธรรมขันธ์ ผู้เข้าชมใช้เวลาศึกษาหลักพระธรรมขันธ์ต่างๆ ซึ่งงานจิตรกรรมฝาผนังที่วาดขึ้นใหม่ทั้งหมดจะช่วยให้ผู้ชมดูเพลินตายิ่งขึ้น
ชั้นที่ 4 คือ ชั้นดาดฟ้า เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อโลหะพระพุทธรูปปางลีลา สูง 7 เมตร และรูปหล่อโลหะหลวงพ่อคูณ ในอิริยาบถยืนถือตะบองสูง 5 เมตร เปรียบได้กับการที่พระพุทธเจ้าได้สอนธรรมแก่หลวงพ่อคูณ และหลวงพ่อคูณก็ได้ช่วยเผยแผ่พุทธธรรมต่อพุทธมามกะ
ส่วนชั้นสุดท้ายเป็นชั้นใต้ดิน ทีมผู้สร้างจัดเป็นโซนของที่ระลึกและวัตถุมงคลต่างๆ
กล่าวได้ว่า วิหารเทพวิทยาคมเป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดนครราชสีมา หลวงพ่อคูณมีดำริสร้างวิหารเทพวิทยาคม เพื่อเป็นมรดกธรรมสำหรับชาวพุทธ ซึ่งยังเป็นประโยชน์ในเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมชาวบ้านโดยรอบพื้นที่วัดบ้านไร่ได้มีงานทำ ประกอบการค้าขายสินค้าอีกด้วย
ผู้ที่สนใจเข้าชมวิหารเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ) วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดให้เข้าเยี่ยมชมและสักการะทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น.
สอบถามข้อมูลหรือสำรองการเข้าชมเพิ่มเติมโทร.08-1203-7427
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
