คอลัมน์ อริยะโลกที่6

เอ่ยนามพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดอุดรธานี โดยเฉพาะในเขตเทศบาล ชื่อ “พระเทพวิสุทธาจารย์” (บุญ ปุญญสิริ) อดีตเจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส อ.เมือง จ.อุดรธานี น้อยคนที่จะรู้ว่าท่านเป็นใคร

แต่หากเอ่ยชื่อ “หลวงปู่ดีเนาะ” ทุกคนจะรู้จักท่านเป็นอย่างดี

นามเดิม บุญ ปลัดกอง เกิดเมื่อปี พ.ศ.2415 ที่บ้านดู่ ต.บ้านดอน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

อายุ 19 ปี ครอบครัวอพยพย้ายถิ่นฐานอาศัยจากจังหวัดนครราชสีมา มาอยู่ที่บ้านทุ่งแร่ ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี

อายุ 22 ปี บรรพชาที่วัดบ้านโนนสว่าง บ้างทุ่งแร่ ต่อมาอีกหนึ่งปีเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดบ้านบ่อน้อย ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี มีพระอธิการกัน วัดสระบัว บ้านสร้างแป้น เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ปุญญสิริ”

จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านโนนสว่าง บ้านทุ่งแร่ 3 พรรษา จึงได้ย้ายสำนัก ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดมัชฌิมาวาส เมื่อปี พ.ศ.2440

เมื่อปี พ.ศ.2451 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด มัชฌิมาวาส

ในขณะที่ หลวงปู่ดีเนาะ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้บูรณะวัด จนเกิดความเจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นถาวรวัตถุและเสนาสนะ เช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญ โรงเรียนปริยัติธรรมและกุฏิของพระลูกวัดจำนวนมาก

นอกจากด้านถาวรวัตถุของวัด หลวงปู่ดีเนาะ ยังหันมาพัฒนาในด้านของการศึกษาของพระภิกษุสามเณรที่อยู่ในวัดแห่งนี้ โดยการจัดตั้งโรงเรียนปริยัติธรรมขึ้นมา สอนนักธรรมบาลีตามหลักสูตรของราชการ คณะสงฆ์ ทั้งนักธรรมและบาลี ถึงชั้น ป.ธ.6

วัตถุมงคล ได้รับการนับถือในฐานะของเกจิอาจารย์ สร้างวัตถุมงคลขึ้นมาเพื่อแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์และประชาชนทั่วไป ที่ได้รับความนิยม คือ เหรียญและตะกรุด เมื่อเวลาท่านจะมอบให้ลูกศิษย์ ท่านจะมอบให้คู่กัน ปัจจุบันค่อนข้างหายาก ด้วยเหตุที่หลวงปู่ ทำออกมาน้อยเพียงรุ่นเดียว

เหตุที่ท่านมีฉายา “หลวงปู่ดีเนาะ” ความเป็นมาของฉายาดังกล่าวนั้น เป็นที่กล่าวขวัญกันในหมู่ศิษย์และประชาชนทั่วไป ที่เคยใกล้ชิดกับท่านกล่าวว่า ตามปกติวิสัยของท่านหลวงปู่ชอบอุทานหรือกล่าวคำว่า “ดีเนาะ” และคำว่า “สำคัญเนาะ”

ท่านจะเรียกคนทั่วไปรวมทั้งพระภิกษุและสามเณร หรือคฤหัสถ์ ว่า “หลวง” เวลาหลวงปู่จะพูดคุยกับใครก็ตาม ท่านก็จะออกปากเรียกคนที่ท่านคุยด้วยว่า “หลวง” และเมื่อท่านจะต้องกลายเป็นผู้รับฟังนั้น ท่านก็จะมีคำอุทานวาจาว่า “ดีเนาะ” อยู่เป็นอาจิณ ไม่ว่าเรื่องที่ท่านได้รับฟังนั้นจะ เป็นเรื่องดี หรือเรื่องร้ายเพียงใดก็ตาม

จากคำอุทาน หรือคำพูดที่หลวงปู่ติดปากนี้เอง ประชาชนและลูกศิษย์ของท่านหลวงปู่ จึงตั้งฉายาหรือสมญานาม ว่า “หลวงปู่ดีเนาะ” แม้กระทั่งในการได้รับ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ของท่านนั้น ราชทินนามของท่านก็ยังมีคำว่า “สาธุอุทานธรรมวาที” ซึ่งแปลว่า “ดีเนาะ” อยู่ในราชทินนามของท่านด้วย

ท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ มีราชทินนามว่า “พระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที ปูชนียฐานประยุต เชษฐวุฒิอิสาน คณาธิกร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”

จนกระทั่งถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2513 เวลา 09.10 น. ด้วยโรคชรา

สิริอายุ 98 ปี พรรษา 76

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน