พระพิมลธรรม อาจ อาสโภ’ (ตอนจบ)

คอลัมน์ รู้ไปโม้ด

โดย…น้าชาติ ประชาชื่น

พระพิมลธรรมฉบับวานนี้ (21 ..) สรัสวดีถามเรื่อง พระพิมลธรรม ที่รองนายกฯ วิษณุยกเทียบเคียงกรณีนายสุวิทย์ พุทธะอิสระ จะกลับมาห่มจีวร เมื่อวานตอบถึงประวัติของท่าน วันนี้อ่านกันต่อเรื่องที่ทางการจับขัง

..2503 เมื่อครั้งสมเด็จ พระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) ดำรงสมณ ศักดิ์เป็นพระพิมลธรรม ได้ถูกกล่าวหาว่าเสพเมถุนทางเวจมรรคกับลูกศิษย์ และมีข่าวว่าพระศาสนโศภน (ปลอด อตฺถการี) อยู่กับสีกาสองต่อสองในที่ลับหูลับตาหลายครั้ง สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ) จึงมีพระบัญชาให้ทั้งสองรูปพ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส แต่ทั้งสองรูปปฏิเสธ โดยตั้งใจจะต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน คณะสังฆมนตรีของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (จวน อุฏฺฐายี) จึงมีมติว่าทั้งสองรูปฝ่าฝืนพระบัญชา ไม่ควรอยู่ในสมณศักดิ์ต่อไป จึงโปรดให้ถอดทั้งสองรูปออกจากสมณศักดิ์ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2503

พระพิมลธรรม

ต่อมา พ..2505 พระมหาอาจถูกทางการกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ถูกบังคับสึกเป็นฆราวาส และจำคุกอยู่ที่กองบังคับการตำรวจสันติบาลอยู่ 5 ปี กระทั่งศาลทหารสามารถพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นความเท็จและตัดสินยกฟ้องเมื่อพ..2509 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้พระเถระทั้งสองรูปคืนสู่สมณศักดิ์เดิมตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2518

เว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรม www.silpa-mag.com เผยแพร่รายงานวิถีพระพิมลธรรม โดนขัง 5 ปีคดีคอมมิวนิสต์ความมั่นคง สู่ศาลทหารยกฟ้อง ชี้ว่าบริสุทธิ์ ว่า วันที่ 20 เมษายน 2505 เวลาบ่าย ประมาณ 13.30 . ขณะที่พระพิมลธรรม (อาจ อาสภมหาเถร) พระมหาเถระระดับรองสมเด็จพระราชาคณะชั้นหิรัญบัฏ สังฆมนตรีว่าการองค์การปกครอง เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กำลังนั่งสนทนากับญาติโยมที่มาเยี่ยม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นจับกุมพระพิมลธรรมโดยข้อหาว่ามีการกระทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐและกระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์ และกระทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐบาลภายในราชอาณาจักรอันเป็นความผิดอาญามีโทษร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต

จากนั้นได้นำท่านไปคุมขังไว้ที่สันติบาล แล้วตำรวจได้นิมนต์พระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดพระนคร วัดสามพระยา และพระธรรมมหาวีรานุวัตร วัดไตรมิตรวิทยาราม มาสึกพระพิมลธรรม โดยพระพิมลธรรมได้เขียนหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมเมื่อเวลาประมาณ 01.00 . ของวันที่ 21 เมษายน 2505

หลังจากที่พระสังฆาธิการทั้ง 2 รูปรับหนังสือไว้ พระธรรมคุณาภรณ์ยกมือขึ้นไหว้พระพิมลธรรม พูดว่าผมขอผ้าเหลืองก็แล้วกันแล้วจึงค่อยปลดเปลื้องจีวรส่วนบน ส่วนพระธรรมมหาวีรานุวัตรเข้ามากราบที่ตักพระพิมลธรรมพร้อมช่วยเปลื้องผ้าเหลืองส่วนล่างเพื่อนำให้ตำรวจในการจะเปลื้องผ้าเหลืองออก ขณะที่ตัวอดีตพระพิมลธรรมอยู่ในกิริยาอาการนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้นวม หลับตา มือนับลูกประคำ ใจเจริญพระพุทธคุณ 108 บท ด้วยจิตใจที่ไม่หวั่นไหว

นี่เป็นวิบากกรรมที่ท่านต้องเผชิญอยู่ในที่คุมขังถึงระยะเวลา 5 ปี และในระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่นั้น นายอาจ ดวงมาลา (ตามที่เจ้าหน้าที่เรียก) ได้ประกาศความเป็นสมณสัญญาอยู่ คือ จะทำทุกอิริยาบถเหมือนเดิม เหมือนเป็นพระภิกษุทุกประการ เช่น การฉันอาหาร ต้องให้ตำรวจช่วยประเคน เป็นต้น เพราะถือว่าตนนั้นมิได้สึกแต่ประการใด เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบผ้าที่ครองเท่านั้น แม้ความเป็นพระก็ไม่ได้อยู่ที่ผ้า แต่อยู่ที่การประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย

เหตุการณ์ที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ยิ่งทำให้อดีตพระพิมลธรรมกลับได้รับความศรัทธาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณถึงการต่อสู้เพื่อความบริสุทธิ์ของตน มีคณะศิษย์ไปเยี่ยมมากมายมิได้ขาด จนสันติบาลอันเป็นสถานที่ถูกคุมขังได้รับการขนานนามว่าสันติปาลารามเสมือนเป็นวัด ในระหว่างที่จำพรรษาอยู่ในสันติบาลนั้นก็ได้เขียนหนังสือสั่งสอนลูกศิษย์อยู่เสมอ

พระพิมลธรรม

หลังจากถูกขังเป็นเวลาถึง 5 ปี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ เหล่าศิษยานุศิษย์ผู้นับถือพากันประท้วงร้องเรียนถึงความเป็นธรรมจนนำไปสู่การตัดสินของศาลทหาร พิพากษายกฟ้องรับรองความบริสุทธิ์ของท่านในวันที่ 30 สิงหาคม 2509 หลังจากนั้นอดีตพระพิมลธรรมได้นุ่งสบงครองจีวรพาดสังฆาฏิ เป็นที่ปลื้มปีติโสมนัสแก่พุทธบริษัทที่มาประชุมฟังการพิจารณาครั้งนี้อย่างคับคั่ง มีพระภิกษุสามเณรประมาณ 1,000 รูป คฤหัสถ์ประมาณ 300 คน ล้นแน่นศาล

จากเหตุการณ์ที่ศาลได้รับรองความบริสุทธิ์อดีตพระพิมลธรรมแล้ว ผู้คนต่างศรัทธาต่ออดีตพระพิมลธรรมเป็นอย่างมาก มีการชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ท่าน เช่น การขอให้เพิกถอนพระบัญชาความผิดคืน การขอพระราชทานสมณศักดิ์กลับคืน ขอคืนตำแหน่งเจ้าอาวาสดังเดิม เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน