เครื่องเป่าลมสร้างแนวกันไฟป่า
กองทุน‘หลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม’
เครื่องเป่าลมสร้างแนวกันไฟป่า – จากสถานการณ์ไฟป่า ในบริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน อ.ปากท่อ รวมไปถึงอีกหลายจุดในจ.ราชบุรี ทำให้สภาพอากาศถูกปกคลุมด้วยกลุ่มควันขาว ไฟป่าลุกไหม้กระจายไปหลายจุด บางพื้นที่มีสภาพ เป็นภูเขาสูงชัน ทำให้การเข้าไปดับไฟของ เจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก ประกอบกับมีกระแสลมพัดแรง มีกิ่งไม้และใบไม้แห้งทับถมอยู่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟป่าลุกลาม
ปัญหาภัยแล้งมีเศษวัชพืชมีสภาพเป็นป่าไผ่ ถ้าเกิดไฟแล้วจะดับยาก ซึ่งสาเหตุการเกิดไฟป่ามาจากมนุษย์เป็นคนจุด และจากหลายประเด็น อาทิ จุดเพื่อล่าสัตว์ เก็บหาของป่า และแกล้งจุด ลักษณะที่เกิดไฟถ้ามีกระแสลมแรงจะลุกลามรวดเร็ว อีกทั้งพื้นที่ราชบุรีมีสภาพป่าโปร่ง ป่าเบญจพรรณแล้ง เป็นไฟผิวดิน เป็นอันตรายต่อไม้เล็ก ไม้ใหญ่
ที่สำคัญเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน หากเกิดกระแสลมแรงพัดขึ้นสู่ยอดเขา วิธีเดียวคือต้องทำแนวกันไฟ แต่บางพื้นที่ยังขาดอุปกรณ์เครื่องเป่าลมเข้าไปดับและทำแนวกันไฟ เพื่อให้อยู่ในวงจำกัด
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 87 พรรษา หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ปากท่อ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ กิตติจิตโต (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม มอบเครื่องเป่าลมสร้างแนวป้องกันไฟป่าให้กับหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ปากท่อ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี)
การเกิดไฟป่า ถือเป็นภัยร้ายแก่ระบบนิเวศและมลพิษทางอากาศ เครื่องเป่าลมสร้างแนวกันไฟป่าและดับไฟป่าถือว่าเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพ โดยให้เจ้าหน้าที่จะใช้สะพายเครื่องอยู่ด้านหลังและเดินเข้าไปสร้างแนวป้องกัน ดับไฟป่าในเขตป่าของจังหวัดราชบุรี
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุด เราควรช่วยกันอนุรักษ์ผืนป่าไว้ ป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ให้ประโยชน์อย่างมากมายกับคนเรา การจะอนุรักษ์ป่าไม้ให้คงอยู่อำนวยประโยชน์ให้กับเราตลอดนั้น เราทุกคนจะต้องร่วมมือร่วมใจกันดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่ามากที่สุด
ปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้กำลังถูกทำลายลง และอาจจะหมดลงได้ในไม่ช้านี้ หากจะให้ทางราชการดำเนินการอนุรักษ์เพียงฝ่ายเดียวคงไม่ได้ผลเพียงพอ จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจ ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันรักษาป่าไม้ในท้องถิ่นของตนเอง ยิ่งโดยเฉพาะการเห็นเหตุการณ์เหล่านี้คือ ไฟไหม้ป่าสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม โดยกองทุนหลวงพ่อพูล เพื่อสาธารณะสงเคราะห์ เล็งเห็นถึงความสำคัญ จึงลงมาช่วยฟื้นคืนผืนป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์สืบต่อไป
“จึงขอเชิญชวนจิตอาสาช่วยกันให้ประชาชนใส่ใจเรื่องไฟป่าและหมอกควัน และโครงการนี้ถือเป็นที่แรกของประเทศไทย จะกระจายแนวความคิดนี้ไปสู่ทุกภาคส่วนที่มีจิตศรัทธา ประสงค์จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ขอบคุณคณะศิษย์ทั้งหลายที่ร่วมกันนำเครื่องเป่าลมมอบให้กับกรมป่าไม้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์เต็มกำลังตามความสามารถที่มีอยู่” หลวงพี่น้ำฝนกล่าว
ด้านนายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.3 เปิดเผยว่า ทุกพื้นที่พร้อมที่จะเกิดไฟป่าได้ตลอดเวลา เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง มีเศษวัชพืช มีสภาพเป็นป่าไผ่ ถ้าเกิดไฟแล้วจะดับยาก หากเกิดกระแสลมแรงพัดขึ้นสู่ยอดเขา มีวิธีเดียวคือต้องทำแนวกันไฟ แต่บางพื้นที่ยังขาดอุปกรณ์เครื่องเป่าลม สร้างแนวป้องกันไฟป่า
นายสุชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างที่ทราบกันดีว่าที่ผ่านมา สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันเกิดขึ้นแทบทุกพื้นที่และเกิดพร้อมกันหลายแห่ง ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ก็มีอยู่น้อย เครื่องเป่าลมตัวนี้ถือเป็นเครื่องที่ดับไฟป่าได้ดีที่สุดในขณะนี้ หนึ่งเครื่องสามารถใช้แทนแรงงานคนได้ถึง 10 คน และใช้ได้ผลดี ขึ้นไปบนพื้นที่ป่าเขาสูงๆ โดยเครื่องเป่าลมทั้งหมดเราได้รับบริจาคจากคณะสงฆ์และภาคเอกชนต่างๆ รวมทั้งเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม รวมแล้วขณะนี้ประมาณ 50 เครื่อง โดยทั้ง 50 เครื่องเราจะลงไปตั้งตามจุดที่เสี่ยงเกิดสถานการณ์ไฟป่า โดยจัดส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปดับไฟป่าได้ทันท่วงที
