หลวงพ่อกาบ ฐานทัตโต

เจ้าอาวาสวัดขุนพรหมดำริ

คอลัมน์ อริยะโลกที่6

หลวงพ่อกาบ ฐานทัตโต – วันจันทร์ที่ 13 เม.ย.2563 ถือเป็นวันมงคล พระครูสารกิจประยุต หรือ หลวงพ่อกาบ ฐานทัตโต จะมีอายุครบรอบ 63 ปี เหล่าศิษย์ผู้ใกล้ชิดและญาติโยมผู้เลื่อมใสจะได้ร่วมแสดงมุทิตาจิต

เป็นพระนักปฏิบัติที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และยังเป็นพระนักพัฒนา ทำให้เป็นที่นับถือศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนในจังหวัดมหาสารคามและใกล้เคียง

ปัจจุบัน สิริอายุ 63 ปี พรรษา 42 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดขุนพรหมดำริ ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม และรองเจ้าคณะอำเภอเมืองมหาสารคาม

มีนามเดิมว่า กาบ วังหอม เกิดเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2500 ที่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 14 ต.วังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม บิดา-มารดา ชื่อ พ่อเคน และ แม่กว้าง วังหอม

ในวัยเยาว์เรียนหนังสือจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านวังแสง ต.วังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม

หลวงพ่อกาบ ฐานทัตโต

ครั้นเมื่ออายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดศิริบุรีวังแสง ต.วังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม มีพระครูปัญญาภิสาร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสถิตสิริคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวรกิจสุนทร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากนั้นจำพรรษาอยู่วัดศิริบุรีวังแสง ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรม จนสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอกในเวลา 3 ปี

พ.ศ.2526 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด ขุนพรหมดำริ บ้านอุปราช

เมื่อปกครองวัดขุนพรหมดำริ ทุ่มเทแรงกาย แรงใจพัฒนา วัดแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสาธารณูปการปรากฏให้เห็นมากมาย อาทิ อุโบสถ ซุ้มประตู กุฏิ ศาลาการเปรียญ เป็นต้น

ร่วมกับชุมชนพัฒนาถนนและขุดบ่อน้ำแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำช่วงฤดูแล้ง

ส่วนด้านการศึกษาได้ให้ความสำคัญ รับหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมมาโดยตลอด

เป็นพระที่เคร่งครัดในระเบียบวินัยมาก พระภิกษุ-สามเณร ที่มาเรียนจะต้องประพฤติตนอยู่ในกรอบพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ทำให้สำนักเรียนแห่งนี้มีชื่อเสียงขจรไกล แต่ละปีมี พระภิกษุสามเณรมาจำพรรษาศึกษาเล่าเรียนเป็นจำนวนมาก

อีกทั้งยังสนับสนุนการศึกษาโดยใช้ปัจจัยส่วนตัวจัดหาหนังสือรวมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ใช้ประโยชน์ทางการศึกษา มอบให้แก่ทางสำนักเรียนวัดขุนพรหมดำริ พร้อมจัดหารางวัลให้แก่พระภิกษุสามเณรและเยาวชนที่เข้าสอบความรู้ธรรมสนามหลวงทุกปี

วัตรปฏิบัติที่หลวงพ่อกาบดำเนินมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี คือ ทุกวันพระท่านจัดอบรมธรรมะ มุ่งเน้นการปฏิบัติเป็นหลัก ด้วยเชื่อว่าการฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานจะสามารถทำให้ญาติโยมเป็นผู้มีสติมีจิตใจที่เข้มแข็ง

ปรับปรุงบรรยากาศภายในบริเวณวัดให้ร่มรื่นสวยงามโดยการปลูกต้นไม้ไว้จำนวนมาก และได้ก่อสร้างรีสอร์ตธรรมะขึ้นภายในบริเวณด้านหลังวัดจำนวน 21 หลัง เพื่อเป็นที่พักและสถานที่ให้ญาติโยมได้ปฏิบัติธรรมอย่างเงียบสงบ และเป็นสัดส่วน

พ.ศ.2537 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นโท ที่พระครู สารกิจประยุต พ.ศ.2548 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลท่าสองคอน เขต 1

พ.ศ.2559 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เทียบเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

เป็นเพชรแท้ของวงการสงฆ์เมืองมหาสารคามโดยแท้

เชิด ขันตี ณ พล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน