พระธรรมราชานุวัตร วัดโมลีโลกยาราม กทม. : มงคลข่าวสด

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พระราชาคณะ จำนวน 3 รูป

หนึ่งในนั้น คือ พระเทพปริยัติโมลี (สุทัศน์ ปิยสีโล) วัดโมลีโลกยาราม เป็น พระธรรมราชานุวัตร
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.2563 ประกาศ ณ วันที่ 22 ก.ค.2563

ปัจจุบันสิริอายุ 49 ปี พรรษา 28 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยาราม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ และเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฝ่ายวิชาการ สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง

มีนามเดิม สุทัศน์ ไชยะภา เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 6 มี.ค.2514 ที่บ้านเลขที่ 152 บ้านราษฎร์นิยม ต.โคกตูม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์

เข้าพิธีบรรพชา เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2527 หลังเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมี พระครูวิบูลวุฒิคุณ (ฉลัน) เจ้าอาวาสวัดตาไก้พลวง และรองเจ้าคณะอำเภอนางรอง เป็นพระอุปัชฌาย์

สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ที่สำนักเรียนวัดกลาง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รวมทั้งสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค

พระครูพิทักษ์ชินวงศ์ เจ้าคณะอำเภอนางรอง จึงนำมาฝาก พระราชเมธี (วรวิทย์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมต่อ

ตามธรรมเนียมวัดมหาธาตุฯ เมื่อมีสามเณรนวกะเข้ามาอยู่อาศัยแต่ละปี จะต้องผ่านอบรมกัมมัฏฐาน อบรมขนบธรรมเนียมประเพณีของวัดและบรรพชาใหม่

จึงบรรพชาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2533 มี พระสุเมธาธิบดี (บุญเลิศ ทัตตสุทธิ) อดีตเจ้าอาวาส อดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นพระอุปัชฌาย์

ครั้นสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค อายุครบ จึงกลับไปอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดกลาง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2535

มีพระราชเมธี (วรวิทย์ คังคปัญโญ) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูธีรคุณาธาร วัดกลาง พระอารามหลวง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูพิทักษ์ชินวงศ์ วัดกลาง เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ศึกษาพระปริยัติธรรมต่อจนจบเปรียญธรรม 9 ประโยค ที่สำนักเรียนวัดมหาธาตุฯ

จากนั้น เข้าศึกษาต่อปริญญาตรี-โท-เอก จนสำเร็จ ป.วค. (ประกาศนียบัตรประโยควิชาชีพครู), พธ.บ. (ปรัชญา), ศษ.บ. (บริหารการศึกษา), อ.ม. (ศาสนาเปรียบเทียบ), ค.ม. (บริหารการศึกษา) และ Ph.D (Cultural Science)

จนถึงปี พ.ศ.2540 จึงได้เป็นพระอนุจร ติดตามพระเทพปริยัติสุธี (วรวิทย์) พระอุปัชฌาย์ ย้ายไปอยู่วัดโมลีโลกยาราม

ระยะแรกทำหน้าที่เป็นรองอาจารย์ใหญ่ (พ.ศ.2541-2543) และอาจารย์ใหญ่ (พ.ศ.2544-ปัจจุบัน) ตามลำดับ ช่วยพระอุปัชฌาย์สอนบาลีและนักธรรม และบูรณปฏิสังขรณ์วัดโมลีโลกยาราม จนทำให้สำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม เป็นสำนักเรียนชั้นแนวหน้า

ต่อมาช่วงเดือน ก.พ.2554 พระพรหมกวี (วรวิทย์) มรณภาพ จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยาราม สืบแทน เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2555

ปกครองอารามแห่งนี้ด้วยดี ตั้งปณิธานสานต่อเจตนารมณ์ของบูรพาจารย์สำนักเรียนวัดโมลีฯ ได้จัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรมและแผนกบาลี

ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ทําให้สำนักเรียนมีความเจริญรุดหน้า มีผลงานเป็นที่ประจักษ์โดดเด่นทั้งในด้านการบริหารและด้านวิชาการ ในแต่ละปีมีผู้สอบได้มากกว่า 100 รูป จนได้รับพระราชทานทุนเล่าเรียนหลวง ประเภทสำนักเรียนบาลีดีเด่น

ลำดับงานปกรอง พ.ศ.2555 เป็นเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยาราม พ.ศ.2557 เป็นเจ้าคณะเขตบางกอกใหญ่ พ.ศ.2554 เป็นพระอุปัชฌาย์ (วิสามัญ)

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2551 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระเมธีวราภรณ์ พ.ศ.2556 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัติโมลี

พ.ศ.2559 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปริยัติโมลี

พ.ศ.2563 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมราชานุวัตร

มีผลงานด้านการเขียนหนังสือมากมาย อาทิ เคล็ดลับวิชาสัมพันธ์ไทย ชั้นประโยค ป.ธ.3 (พ.ศ.2538), หนังสือธรรมศึกษาชั้นตรี ฉบับปรับปรุงตามหลักสูตรใหม่, หนังสือปัญหาและเฉลยบาลีสนามหลวงชั้นเปรียญเอก (พ.ศ.2549), หลักสูตรบาลีไวยากรณ์และหลักสัมพันธ์ เป็นต้น

ยังคงทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้แก่การศึกษา โดยเฉพาะการศึกษาคณะสงฆ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน