พระพรหมบัณฑิต (ประยูร) – วันพฤหัสบดีที่ 17 ก.ย.2563 เป็นวันมงคล พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธัมมจิตโต) จะมีอายุครบรอบ 65 ปี เหล่าศิษย์ ผู้ใกล้ชิดและญาติโยมผู้เลื่อมใส จะร่วม จัดงานมุทิตาจิตฉลองอายุวัฒนมหามงคล เป็นประจำทุกปี
พระพรหมบัณฑิต เป็นพระสงฆ์ยุค ใหม่ที่เป็นนักบริหาร อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ปฏิบัติศาสนกิจสนองงานคณะสงฆ์ได้ อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน ทั้งงานภายในและต่างประเทศ
ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งกรรมการมหา เถรสมาคม, เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร, ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะใหญ่ หนกลาง ฯลฯ สิริอายุ 65 ปี พรรษา 44
มีนามเดิมว่า ประยูร มีฤกษ์ เกิดเมื่อ วันเสาร์ที่ 17 ก.ย. 2498 ที่ ต.โพธิ์พระยา อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
อายุ 11 ขวบ เข้าพิธีบรรพชา ที่วัดสามจุ่นอ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี โดยมีพระครู ศรีคณารักษ์ วัดดอนบุบผาราม เป็นพระอุปัชฌาย์
ด้วยความที่มีจิตใจใฝ่ธรรม ให้ความสนใจศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ขณะเป็นสามเณรที่สำนักเรียนวัดประยุรวงศาวาส
เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2519 เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ ในฐานะนาคหลวงสายเปรียญธรรม มีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น) วัดสามพระยา เป็นพระอุปัชฌาย์, สมเด็จพระมหาธีราจารย์วัดชนะสงคราม เมื่อครั้งดำรงสมศักดิ์ พระธรรมปิฎก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ เมื่อดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมธีรราชมหามุนี เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากนั้น เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จบปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) สาขาปรัชญา ก่อนเดินทางไปศึกษาต่อประเทศอินเดีย สำเร็จปริญญาโท สาขาปรัชญา และปริญญาเอกสาขาปรัชญา มหาวิทยาลัยเดลี ในปี พ.ศ.2529 รวมทั้งได้ประกาศนียบัตรภาษาฝรั่งเศส (Diploma in French) จากมหาวิทยาลัยเดลี
หลังจากจบปริญญาเอก เป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยระยะหนึ่ง ต่อมามหาเถรสมาคมอนุมัติให้ท่านไปเป็นพระธรรมทูตประจำวัดไทย เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา ก่อนกลับมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองวิชาการต่อมาเป็นคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวางแผน รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ
สร้างคุณูปการและทุ่มเทให้กับงานศาสนาทุกอย่าง โดยเฉพาะด้านวิชาการ การศึกษา และมหาวิทยาลัย ด้านวิชาการเคยผลิต ผลงานเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและปรัชญามากกว่า 50 เล่ม และเป็นที่ยอมรับในวงวิชาการผลงานในภาคภาษาอังกฤษที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในระหว่างผลงานชิ้นอื่นๆ มากมาย อาทิ พุทธวิธีสร้างสันติภาพ ศีลธรรมชาวพุทธและโลกทัศน์ชาวพุทธ
ด้านวิชาการ ผลักดันบูรณาการหลักสูตรของมหาวิทยาลัยให้เด่นด้านวิชาการพุทธศาสนาเปิดขยายวิชาการพระพุทธศาสนา ถึงขั้นปริญญาเอก ต้อนรับคนทั่วโลกให้ เข้ามาศึกษา พร้อมกับวางแผนงานให้กับมหาวิทยาลัยก้าวสู่โลกอินเตอร์นำระบบมหาวิทยาลัยต่างแดนมาประยุกต์
ในฐานะเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร แสดงพระธรรมเทศนากัณฑ์อุโบสถทุกวันพระขึ้น-แรม 15 ค่ำ เป็นประจำและดำเนินการจัดอบรมพระนักเทศน์ในระหว่างเทศกาลเข้าพรรษาทุกปี
อีกทั้ง พัฒนาพระวิปัสสนาจารย์และ ส่งเสริมการปฏิบัติธรรมภายในวัดจนกระทั่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ประกาศยกย่องวัดประยุรวงศาวาส วรวิหารเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดดีเด่น เมื่อปี พ.ศ.2553
ครั้นเมื่อเกิดมหาอุทกภัยใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง พ.ศ.2554 ยังได้จัดตั้งศูนย์พักพิงช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2530 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส พ.ศ.2541 เป็นเจ้าคณะภาค 2 และได้รับการแต่งตั้งเข้ารับตำแหน่งเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พ.ศ.2542 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2547 เป็นเลขานุการคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช พ.ศ.2548 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส
พ.ศ.2554 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม
พ.ศ.2562 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะใหญ่หนกลาง
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2532 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชา คณะชั้นสามัญที่ พระเมธีธรรมาภรณ์
พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชวรมุนี
พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานเลื่อนเป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพโสภณ
พ.ศ.2548 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมโกศาจารย์
พ.ศ.2555 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏที่ พระพรหมบัณฑิต
ถือได้ว่าเป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยศีลาจารวัตรเป็นที่ยอมรับในความรอบรู้ด้านวิชาการ ทั้งวิชาศาสนาและวิชาสากล
