หลวงปู่ม่น ธัมมจิณโณ – วันพฤหัสบดีที่ 8 ต.ค.2563 น้อมรำลึกครบรอบ 22 ปี มรณกาล “พระครูสุจิณธรรมวิมล” หรือ “หลวงปู่ม่น ธัมมจิณโณ” อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังวัดเนินตามาก ต.โคกเพลาะ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
มีนามเดิม ม่น นามสกุล วิญญาณ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 16 เม.ย.2453 บิดาชื่อ มา มารดาชื่อ แดง
ในวัยเยาว์ บิดามารดา นำไปฝากเรียนกับพระที่วัดใกล้บ้าน ศึกษาอักขรสมัย เนื่องจากเป็นผู้มีจิตใจ อ่อนโยน โอบอ้อมอารีสนใจใฝ่เรียน มีความพยายามและอดทน ทำให้พระอาจารย์ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้อย่างเต็มกำลัง จนมีความรู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เช่น ด้านอักษร การแพทย์แผนโบราณ และการช่าง
อายุ 29 ปี จึงได้ขอบรรพชาอุปสมบท ในวันเสาร์ที่ 9 เม.ย.2481 ที่พัทธสีมา วัดโคกเพลาะ ต.โคกเพลาะ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี โดยมี พระครูสังวรศีลาจารย์ วัดหลวงพรหมาวาส ต.วัดหลวง อ.พนัสนิคม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพิพัฒน์ธรรมคุณ วัดโบสถ์ ต.วัดโบสถ์ อ.พนัสนิคม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูอาจารย์สุนทร วัดโคกเพลาะ จ.ชลบุรีเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้นามฉายาว่า “ธัมมจิณโณ”
หลังอุปสมบท พำนักที่วัดโคกเพลาะระยะหนึ่ง จึงได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดเนิน ตามาก เริ่มศึกษาเล่าเรียนคันถธุระและวิปัสสนาธุระอย่างจริงจัง เป็นพระที่เคร่งครัดในธรรมวินัยตั้งแต่เริ่มอุปสมบท ศึกษาพระปริยัติธรรม เข้าสอบนักธรรมชั้นตรี ชั้นโท ตามลำดับ มีความสามารถในการจำและสวดพระปาฏิโมกข์ได้ จนมาค้นคว้าด้วยตนเอง ฝึกการปฏิบัติจิตและกัมมัฏฐาน
เพื่อพ้น 5 พรรษา จึงได้ออกธุดงค์เพื่อหาประสบการณ์ไปตามสถานที่ต่างๆ เช่น พระพุทธบาท สระบุรี วัดปากน้ำ ภาษีเจริญเป็นต้น
ภายหลังท่านฝากตนเป็นศิษย์ พระสมุห์บุญยิ่ง วิริโย ที่วัดเขาบางพระ อ.ศรีราชา รับคำแนะนำสั่งสอนในการปฏิบัติอันเป็นไปด้วยธาตุและจริตเป็นหนึ่งเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาด้านเวชกรรมจากพระสมุห์บุญยิ่งเพิ่มเติม จนมีความเชี่ยวชาญ ต่อมาพระสมุห์บุญยิ่ง ได้ชักชวนหลวงปู่ม่นออกธุดงค์หาสถานที่ปฏิบัติวิเวก
พ.ศ.2490 พระอธิการกี่ เจ้าอาวาสวัดเนินตามาก ได้ลาสิกขา ทางคณะสงฆ์ และอุบาสก อุบาสิกาอาราธนานิมนต์หลวงปู่ม่นกลับไปเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัด สั่งสอนภิกษุ สามเณร สืบต่อไป เมื่อหลวงปู่ม่นเป็นเจ้าอาวาส ปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี ทำนุบำรุงวัดเนินตามากให้เจริญรุ่งเรือง สร้างถาวรวัตถุเช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญ ฯลฯ
หลวงปู่ม่นเป็นที่เคารพศรัทธาของบรรดาศิษย์ สร้างคุณงามความดีให้แก่พระพุทธศาสนาและท้องถิ่น เป็นที่ยอมรับของสาธุชนทั่วไป
พ.ศ.2529 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร ที่พระครูสุจิณธรรมวิมล พ.ศ. 2523 อาพาธด้วยโรคอัมพฤกษ์ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพนัสนิคม เกือบหาย เป็นปกติ จึงกลับมาพักฟื้นที่วัด
จนกระทั่งปี พ.ศ.2537 อาพาธหนัก อีกครั้ง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวช กรุงเทพฯ เป็นเวลาถึง 8 เดือน จึงสามารถกลับมาอยู่วัด
หลังจากนั้น ท่านก็อาพาธเป็นๆ หายๆ เข้าออกโรงพยาบาลสมิติเวช
กระทั่งมรณภาพด้วยอาการสงบ ที่ โรงพยาบาลสมิติเวช เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ต.ค.2541 เวลา 18.00 น.
สิริอายุ 88 ปี 5 เดือน 24 วัน พรรษา 60
