หลวงพ่อทองอยู่ ปัญญาวัฑฒโน – วันจันทร์ที่ 19 ต.ค.2563 น้อมรำลึกครบรอบ 39 ปี มรณกาล “หลวงพ่อทองอยู่ ปัญญาวัฑฒโน” หรือ “พระครูนิรภัยวิเทต” อดีตเจ้าอาวาสวัดเกยไชยเหนือ (บรมธาตุ) รูปที่ 3 อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์

พระเถระผู้ทรงวิทยาคุณ มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา

ครูบาอาจารย์ของท่าน คือ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, พระปลัดนิ่ม วัดบางศาลา อ.ไชโย จ.อ่างทอง, พระครูฉ่ำ วัดบางตะเคียน ต.โตนด อ.ไชโย จ.อ่างทอง

เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน 6 ปีมะเมีย พ.ศ.2437 ที่บ้านเกยไชย ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เป็นบุตรของพ่อสุ่มและแม่จั่น

โยกย้ายตามครอบครัวมาอยู่ที่บ้านหนองขอน ต.ท่าไม้ อ.ชุมแสง

อายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดหนองขอน มีพระครูสวรรค์วิจิตร (สถ) เจ้าคณะอำเภอชุมแสงในขณะนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์

จากนั้นไปจำพรรษาที่วัดบ้านบึง ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ได้รับนิมนต์ให้มาช่วยสร้างศาลาการเปรียญที่วัดหนองเต่า แล้วย้ายมาจำพรรษาที่วัดหนองขอนอีก 2 พรรษา ก่อนจะย้ายมาศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดเกยไชยเหนือ

ต่อมา เดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรมและหาความรู้ด้านวิทยาคมกับพระอาจารย์นิ่ม วัดบางศาลา ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณกับพระครูฉ่ำ วัดบางตะเคียน

ในสมัยนั้น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก จึงเดินทางไปหาหลวงพ่อเงินและฝากตัวเป็นศิษย์

จากนั้น เดินทางกลับมาที่วัดเกยไชย ช่วยสอนพระปริยัติธรรมจนวัดเกยไชยเป็นสำนักเรียนที่มีชื่อเสียง

ต่อมาตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเกยไชยว่างลง รับหน้าที่เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส พรรษาที่ 9 จึงได้เป็นเจ้าอาวาส รับภาระสร้างถาวรวัตถุ ทำนุบำรุงวัดเป็นอย่างดี

กล่าวสำหรับ วัดเกยไชยเหนือ (บรมธาตุ) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยม เป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย

เดิมชื่อวัดพระบรมธาตุ ต่อมา สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จเยี่ยมวัดพระบรมธาตุและเปลี่ยนชื่อ วัดใหม่ตามการปกครองของบ้านเมือง ว่า วัดเกยไชยเหนือ (บรมธาตุ)

ด้วยความขยันและความสามารถ พระครูนิภากรโสภณ (นิ่ม) เจ้าคณะอำเภอชุมแสง จึงแต่งตั้งให้เป็นพระใบฎีกา ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลเกยไชย ในพรรษาที่ 12

ในปี พ.ศ.2475 วัดหนองขอน ที่ท่านเคยเข้าพิธีอุปสมบท ชำรุดทรุดโทรมลง ท่านจึงกลับไปช่วยพัฒนาวัดหนองขอน พระครูนิภากรโสภณ (นิ่ม) เจ้าคณะอำเภอชุมแสง เห็นความสามารถของท่าน ได้ทำเรื่องขอให้ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ แต่ท่านไม่ยอมรับ จนกระทั่งพระนิภากรโสภณ มรณภาพ ท่านจึงได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ในพรรษาที่ 29 เมื่อปี พ.ศ.2486

ด้านการสร้างวัตถุมงคล จากการที่หลวงพ่อทอง อยู่เป็นที่เคารพของประชาชน จึงได้มีการขอให้หลวงพ่อสร้างวัตถุมงคลรูปเหมือน ในคราวที่หลวงพ่อ อายุ 64 ปี พรรษา 45 มีทั้งรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงและรูปเหมือนขนาดเล็กที่ใช้การหล่อแบบโบราณ บ้างเรียกขานกันว่า รุ่นจ๋อ 1 และยังมีวัตถุมงคลอีกหลายรุ่น อาทิ เหรียญหยดน้ำ เหรียญรูปเสมา เหรียญเกลียวเชือก เหรียญกงจักร ตะกรุดโทน แหวนอัลปาก้า พระเนื้อดิน ล็อกเกต ภาพถ่ายหลังตะกรุดสามกษัตริย์ ซึ่งวัตถุมงคลทุกรุ่น ล้วนมีประสบการณ์

ทุ่มเทกายใจเพื่อพระศาสนา มีความตั้งใจว่า “ชาตินี้ขอยอมมอบชีวิตไว้กับผ้ากาสาวพัสตร์” ท่านจึงนำปัจจัยทั้งหมดที่ได้จากการถวาย สร้างถาวรวัตถุ สร้างวัด สร้างโรงเรียน บำรุงกิจการคณะสงฆ์

วันที่ 5 ธ.ค.2499 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ พระครูนิรภัยวิเทต

วันที่ 5 ธ.ค.2509 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท

พ.ศ.2515 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

วันที่ 19 ต.ค.2524 มรณภาพด้วยอาการอันสงบ สิริอายุ 87 ปี พรรษา 67

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน