คอลัมน์ มงคลข่าวสด

วันที่ 8 ก.ค.2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ พระอธิการสุธรรม สุธัมโม เป็น พระราชวชิรธรรมาจารย์ ภาวนาวิธานธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ สถิต ณ วัดเกษรศีลคุณ จ.อุดรธานี มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 4 รูป

ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.2564 ประกาศ ณ วันที่ 8 ก.ค.2564 เป็นปีที่ 6 ในรัชกาลปัจจุบัน
“พระอาจารย์สุธรรม” หรือ “พระราชวชิรธรรมาจารย์ วิ.” เจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นศิษย์ผู้ดำเนินปฏิปทาตามรอยธรรมคำสอนจากครูบาอาจารย์หลายรูป อาทิ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่, หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร, หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ฯลฯ

แต่ละรูปล้วนเป็นบูรพาจารย์สำคัญสายพระป่ากรรมฐานศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทั้งสิ้น

ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) ลำดับที่ 3 ต่อจากหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน และพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน เจ้าอาวาสรูปที่สอง ซึ่งถึงแก่การมรณภาพไป

ปัจจุบัน สิริอายุ 72 ปี พรรษา 52
มีนามเดิมว่า สุธรรม แซ่จึง เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 21 ต.ค.2492 ที่ ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง บิดา-มารดา ชื่อ นายจึงบุ้นเลี้ยง และนางจิวป๋อเซี้ยม แซ่จึง

เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2513 ที่พัทธสีมาวัดตรีรัตนาราม ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง มีพระครูประจักษ์ตันตยาคม วัดคีรีภาวนาราม อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เป็นพระอุปัชฌาย์
จำพรรษาที่วัดตรีรัตนาราม เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2516 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ

พรรษา 5 ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ เพื่อศึกษาข้อธรรมะแนวทางปฏิบัติของพระฝ่ายกัมมัฏฐานกับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ และหลวงปู่สิม พุทธาจาโร แห่งวัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
พรรษา 6 กราบลาหลวงปู่สิม เดินทางไปจังหวัดสกลนคร เพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์รับใช้ ศึกษาข้อธรรมะและจำพรรษากับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร แห่งวัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
พรรษา 7 จำพรรษาเพื่อศึกษาข้อธรรมะกับพระอาจารย์สิงห์ทอง แห่งวัดป่าแก้วชุมพล จ.สกลนคร
พรรษา 10 จำพรรษาอยู่กับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หรือ “ท่านอาจารย์ใหญ่บ้านตาด” แห่งวัดป่าบ้านตาด
พรรษาที่ 12 จำพรรษาที่วัดป่าหนองไผ่ อ.เมือง จ.สกลนคร แทนพระอาจารย์ทองฮวด ฐานวโร
ในวันที่พระอาจารย์สุธรรม ไปกราบนมัสการลาหลวงตามหาบัว เพื่อมาอยู่ที่วัดป่าหนองไผ่ ท่านประทานโอวาท มีถ้อยความว่า

“ไปแล้ว อย่าไปขวนขวายหาติดต่อญาติโยม คลุกคลีกับสังคม เพราะนั้นไม่ใช่เครื่องขัดเกลา จะทำให้เราเพลิดเพลินลืมเนื้อลืมตัว เสริมกิเลสโดยง่าย”

พระอาจารย์สุธรรม ขอความเมตตา จากพระอาจารย์ใหญ่บ้านตาด ว่า “หากเกล้ากระผมติดขัดไม่สะดวกในการปฏิบัติธรรม หรือสงสัยในธรรม จะขอเข้ามาศึกษาปฏิบัติกับพ่อแม่ ครูบาอาจารย์อีก” หลวงตามหาบัว ก็เมตตารับคำ

วัดป่าหนองไผ่แห่งนี้ นับเป็นสาขาหนึ่งของหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2524 มาพักยังที่พักสงฆ์ป่าหนองไผ่ (วัดป่าหนองไผ่ ในปัจจุบัน) เริ่มจัดทำเสนาสนะตามอัตภาพ โดยพักอยู่ในถ้ำเงื้อมผา ความเป็นอยู่ในยุคแรกยังแห้งแล้งกันดาร อัตคัดขัดสนข้นแค้นลำเค็ญอยู่มาก

นับแต่รับภาระบริหารดูแลรักษาวัดแห่งนี้ พัฒนาวัดจนมีความเจริญรุ่งเรือง มีนโยบายใช้ทรัพยากรป่าไม้ เพื่อใช้อนุรักษ์ควบคุมความสมดุลระบบนิเวศธรรมชาติ และสงวนรักษาพื้นที่นี้ไว้ให้เป็นบรรยากาศธรรมชาติที่เหมาะสมแก่การฝึกหัดขัดเกลาจิตใจ ปฏิบัติสมาธิภาวนา พัฒนาสติปัญญา สำหรับพระภิกษุ-สามเณร เยาวชน และบุคคลทั่วไป

ต่อมาวันที่ 23 พ.ค.2563 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด แทนพระอาจารย์สุดใจซึ่งถึงแก่การมรณภาพไป

กระทั่ง เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2564 พระราชสารโกศล (วงศ์ไทย สุภวังโส) เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) ถวายตราตั้งเจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) อย่างเป็นทางการ
ล่าสุด วันที่ 7 ก.ค.2564 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชวชิรธรรมาจารย์ วิ.
ถือเป็นทายาทธรรมที่เดินตามรอยปฏิปทาหลวงตามหาบัวและบูรพาจารย์ฝ่ายวิปัสสนาอย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน