วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พล.ร.อ.พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี เชิญหิรัญบัฏ พัดยศ ผ้าไตร และเครื่องประกอบสมณศักดิ์ ถวายแด่ พระพรหมวชิราลังการ (ชลอ กิตติสาโร) ณ ศาลาเจ้าฟ้า วัดเพชรวราราม พระอารามหลวง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

ด้วยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดมบรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ ประกาศ ณ วันที่ 14 พ.ย.2565 ให้พระธรรม วราลังการขึ้นเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า “พระพรหมวชิราลังการ ปูชนียฐานประยุต วิสุทธิภาวนาโกศล วิมลสีลสมาจารมุนี ตรีปิฎกคุณาภรณ์ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี” สถิต ณ วัดเพชรวราราม พระอารามหลวง จ.เพชรบูรณ์ มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 8 รูป

การนี้ นายอินทพร จั่นเอี่ยม รักษาราชการแทน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, นายสุพัฒน์ เมืองมัจฉา ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม, นายพรมรินทร์ ขวัญอ่อน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุโขทัย และน.ส.อัจฉรา ปั้นมูล ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมปฏิบัติงานพิธี

พระพรหมวชิราลังการ สิริอายุ 94 ปี พรรษา 74 ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ) และเจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม

มีนามเดิมว่า ชลอ เขื่อนเจริญ เกิดเมื่อ วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.2472 ที่บ้านหนองหลวง ต.บางลี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี

อายุ 14 ปี เข้าพิธีบรรพชาเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2485 ที่วัดบางลี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี มีพระอธิการสุข สุขสโร วัดบางลี่ เป็นพระอุปัชฌาย์

ภายหลังบรรพชาใหม่ในคณะธรรมยุติกนิกาย เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2490 ที่วัดสิริจันทนิมิตร ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี มีพระศรีวรคุณ (ลำเจียก สังกิจโจ) วัดสิริจันทนิมิตร เป็น พระอุปัชฌาย์

อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2492 ที่วัดบรมนิวาส แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

มีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) วัดบรมนิวาส เป็นพระอุปัชฌาย์, พระธรรมดิลก (ทองคำ จันทูปโม) วัดบรมนิวาส เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระศรีวรคุณ (ลำเจียก สังกิจโจ) วัดสิริจันทนิมิตร เป็น พระอนุสาวนาจารย์

อยู่จำพรรษา ศึกษาพระปริยัติธรรมและ รับใช้อุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ พร้อมทั้งศึกษาวิทยาคม สำเร็จนักธรรมชั้นตรี-โท-เอก พ.ศ.2499 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค

ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาสขณะนั้น มอบหมายภารกิจสนองงานในตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส ทั้งในด้านการปกครอง การศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การสาธารณูปการ และอื่นๆ อีกมากมาย

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2496 เป็นเลขานุการผู้ช่วยเจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธ) พ.ศ.2508 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาสราชวรวิหาร พ.ศ.2518 เป็นเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ.2545 เป็นรองเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ) พ.ศ.2549 เป็นเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ)

พ.ศ.2552 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5- 6-7 (ธ)

พ.ศ.2555 เป็นเจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2508 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่พระครูภัทรสังวรคุณ พ.ศ.2516 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่พระกิตติสารโสภณ พ.ศ.2534 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เลื่อนเป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่พระราชพิศาลสุธี

พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพรัตนดิลก

วันที่ 12 ส.ค.2547 ได้รับพระราชทาน เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมวราลังการ

ล่าสุดวันที่ 15 พ.ย.2565 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะ เจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ในราชทินนามที่ พระพรหมวัชรจริยาจารย์

เป็นพระเถระที่มีความรู้แตกฉานด้าน พระธรรมวินัย เป็นนักปกครอง นักการศึกษา นักสังคมสงเคราะห์ ที่สำคัญคือ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านช่าง วัตรปฏิบัติติดดินและสัมผัสได้ทุกกาลเวลา ปฏิบัติเกื้อกูลต่อผู้ที่มากราบนมัสการเสมอภาค

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน