ครอบครัวงง นำร่าง พนักงานหนุ่ม เหยื่อแทงก์สารเคมีระเบิด กลับไปทำพิธีที่บ้านเกิดเชียงราย ถึงแค่อ่างทอง ตำรวจโทรหาต้องเปลี่ยนเส้นทาง ส่งกลับนิติเวช รพ.ตร.
วันที่ 11 พ.ค.2567 จากเหตุการณ์ ถังเก็บสารเคมีบริษัท มาบตาพุดแทงค์ เทอร์มินอล จำกัด ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เกิดระเบิด จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย และเสียชีวิต 1 ราย คือ นายนพพร เรือนมา อายุ 33 ปี
โดยญาติได้นำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากโรงพยาบาลระยองเพื่อจะกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.เชียงราย โดยรถตู้ของมูลนิธิฯบรรทุกศพออกจากโรงพยาบาลระยองตั้งแต่เวลา 15.30 น.ของวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ทางคนขับรถตู้บรรทุกศพได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจระยองให้รีบนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปยังโรงพยาบาลตำรวจเพื่อทำการชันสูตร ซึ่งขณะนั้นรถได้เดินทางไปถึง จ.อ่างทอง แล้ว ทางคนขับได้ปรึกษากับญาติผู้เสียชีวิตซึ่งนั่งมาด้วย
- อ่านข่าว : ภรรยา-ญาติ จุดธูปเคาะโลง พาเหยื่อแท็งก์ระเบิด กลับไปทำพิธีที่บ้าน เชียงราย
- อ่านข่าว : โซเชียลแห่สดุดี หนุ่มพนักงานสละชีวิต พยายามขึ้นไปปิดวาล์ว ก่อนถังเก็บแก๊สโซลีนระเบิด
และยังมีที่ขับรถใส่ทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตตามมาอีก 1 คัน ญาติได้ประสานมาทางบริษัทเพราะต้องการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปยัง จ.เชียงราย ซึ่งมีญาติรออยู่ แต่ในที่สุดก็ต้องกลับไปที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ตามที่ตำรวจได้แจ้งมา โดยญาติก็ต้องตามไปด้วยเช่นกัน
พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งกำชับให้ พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.มาบตาพุด ใช้ความละเอียดรอบคอบ เพราะ การตรวจสอบหลักฐานรายละเอียดต่าง ๆ ทางคดี ต้องผ่านจากนิติเวช
พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งสภาพศพในบางครั้งการเห็นด้วยตาเพียงภายนอกไม่ได้หมายความว่าภายในจะไม่ได้เกิดอะไรขึ้น หากมีการเผาศพไปแล้ว จะทำให้ยากต่อการตรวจสอบ การชันสูตรไว้อย่างละเอียดรอบคอบทำตามขั้นตอนเพื่อให้คดีรัดกุมที่สุด