คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดเพชรบูรณ์สูญเสียพระมหาเถระรูปสำคัญ

“พระพรหมวัชรจริยาจารย์” ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ) และเจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม พระอารามหลวง จ.เพชรบูรณ์

แม้แพทย์และพยาบาลให้การรักษาพยาบาลอย่างเต็มความสามารถ แต่เนื่องจากชราภาพมาก ร่างกายอ่อนแอ ประกอบกับมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด

จึงละสังขารด้วยอาการอันสงบ ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2566 เวลา 20.38 น. สิริอายุ 94 ปี พรรษา 74

มีนามเดิมว่า ชลอ เขื่อนเจริญ เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 27 ม.ค.2472 ที่บ้านหนองหลวง ต.บางลี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี

ช่วงวัยเยาว์ อายุ 14 ปี เข้าพิธีบรรพชา เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2485 ที่วัดบางลี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี มีพระอธิการสุข สุขสโร วัดบางลี่ เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังบรรพชาใหม่ในคณะธรรมยุติกนิกาย เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2490 ที่วัดสิริจันทนิมิตร ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี มีพระศรีวรคุณ (ลำเจียก สังกิจโจ) วัดสิริจันทนิมิตร เป็นพระอุปัชฌาย์

อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2492 ที่วัดบรมนิวาส แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

มีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) วัดบรมนิวาส เป็นพระอุปัชฌาย์, พระธรรมดิลก (ทองคำ จันทูปโม) วัดบรมนิวาส เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระศรีวรคุณ (ลำเจียก สังกิจโจ) วัดสิริจันทนิมิตร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้นามฉายากิตติสาโร

อยู่จำพรรษา ศึกษาพระปริยัติธรรมและรับใช้อุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ พร้อมทั้งศึกษาวิทยาคม สำเร็จนักธรรมชั้นตรี-โท-เอก พ.ศ.2499 สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค

ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาสขณะนั้น มอบหมายภารกิจสนองงาน ในตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส ทั้งในด้านการปกครอง การศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การสาธารณูปการ และอื่นๆ อีกมากมาย

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2496 เป็นเลขานุการผู้ช่วยเจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธ) พ.ศ.2508 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาสราชวรวิหาร พ.ศ.2518 เป็นเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ.2545 เป็นรองเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ) พ.ศ.2549 เป็นเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ)

พ.ศ.2552 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ)

พ.ศ.2555 เป็นเจ้าอาวาสวัดเพชรวราราม

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2508 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่พระครูภัทรสังวรคุณ พ.ศ.2516 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระกิตติสารโสภณ พ.ศ.2534 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชพิศาลสุธี

พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพรัตนดิลก

วันที่ 12 ส.ค.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมวราลังการ

ต่อมาวันที่ 15 พ.ย.2565 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้น เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ในราชทินนามที่ พระพรหมวัชรจริยาจารย์

เป็นพระเถระที่มีความรู้แตกฉานด้านพระธรรมวินัย เป็นนักปกครอง นักการศึกษา นักสังคมสงเคราะห์ ที่สำคัญคือ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านช่าง เป็นพระมหาเถระผู้มีเมตตาธรรม วัตรปฏิบัติติดดินและสัมผัสได้ทุกกาลเวลา ปฏิบัติเกื้อกูลต่อพุทธศาสนิกชนที่มากราบนมัสการอย่างสม่ำเสมอกัน

ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ในการครองสมณเพศ ชาวเพชรบูรณ์ ได้ประจักษ์ถึงผลงานและคุณสมบัติต่างๆ เป็นที่ยกย่องเชิดชูมากมาย ทั้งในด้านการบริหารและด้านวิชาการ ตลอดจนเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาคุณ

ล่วงเข้าปัจฉิมวัย ด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร อาพาธบ่อยครั้ง คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ได้นำไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพฯ จนกระทั่งละสังขาร

สำหรับกำหนดการบำเพ็ญกุศลสรีรสังขาร ณ ศาลาเจ้าฟ้า วัดเพชรวราราม พระอารามหลวง จ.เพชรบูรณ์ กำหนดการสวดอภิธรรม วันละ 2 เวลา ได้แก่ เวลา 14.00 น. และเวลา 19.30 น. เป็นเวลา 100 วัน และประกาศงดพวงหรีดอีกด้วย

ขอเชิญคณะศิษยานุศิษย์ร่วมแสดงความอาลัยโดยทั่วกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน