เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ พระราชวินยาภรณ์ เป็น พระเทพวชิรดิลก สาธกธรรมวรคุณ สุนทรวิหารกิจ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นเทพ สถิต ณ วัดบุรณศิริมาตยาราม พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 5 รูป

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.2566 ประกาศ ณ วันที่ 28 มิ.ย.2566

“พระเทพวชิรดิลก” (เปลี่ยน โชตยาวัตโต) เป็นพระนักเผยแผ่ธรรม ที่ธำรงวัตรปฏิบัติตามแบบพระสงฆ์สายคณะธรรมยุตแท้ๆ อีกรูป ตามรอย “พระพรหมเมธาจารย์” (คณิศร์ เขมวังโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดบุรณศิริมาตยาราม และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์

เป็นสมณะผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตนเป็นตัวอย่าง ด้วยมีวัตรปฏิบัติอันน่ายกย่องและศรัทธา

ปัจจุบัน สิริอายุ 64 ปี พรรษา 44 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุรณศิริมาตยาราม แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ, รองเจ้าคณะภาค 17-18 (ธ) และรักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต-ตรัง-กระบี่ (ธ)

มีนามเดิม เปลี่ยน นิลรัตน์ เกิดเมื่อวันที่ 13 ต.ค.2502 ที่บ้านม่วงหน่อแก้ว เลขที่ 55 หมู่ที่ 1 ต.คลองทราย อ.นาทวี จ.สงขลา

ในช่วงวัยเยาว์ เริ่มเรียนหนังสือ เข้าโรงเรียนที่โรงเรียนในชุมชน

อายุ 17 ปี เข้าพิธีบรรพชา ที่วัดน้ำขาวนอก ต.น้ำขาว อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2519 โดยมีพระครูโสภณศีลาจารย์ วัดควนมิตร ต.คลองเปี๊ยะ อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นพระอุปัชฌาย์








Advertisement

ตั้งมั่นเร่งศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2521 สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ที่สำนักศาสนศึกษาวัดน้ำขาวนอก

จากนั้นมุ่งศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างจริงจัง แต่ด้วยเห็นว่าวัดในต่างจังหวัด ยังมีความไม่พร้อมในด้านการศึกษาหลายด้าน จึงตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าเมืองหลวง ไปอยู่จำพรรษาที่วัดบุรณศิริมาตยาราม เขตพระนคร

ต่อมาเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2523 ที่วัดบุรณศิริมาตยาราม มีพระพรหมเมธาจารย์ (เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ที่พระกวีวรญาณ) วัดบุรณศิริมาตยาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอุดมศีลคุณ (เริ่ม นันทิโย) วัดบุรณศิริมาตยาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาบังอร ฐิตปปสาโท วัดบุรณศิริมาตยาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี พ.ศ.2523 สอบได้เปรียญธรรม 1-2 ประโยค สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร พ.ศ.2526 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ที่สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร

พ.ศ.2530 เปรียญธรรม 4 ประโยค ที่สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร

ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าอาวาสวัดบุรณศิริมาตยารามขณะนั้น รับมอบหมายภารกิจสนองงานเจ้าอาวาส ทั้งในด้านการปกครอง การศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การสาธารณูปการ และอื่นๆ อีกมากมาย

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2536 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบุรณศิริมาตยาราม พ.ศ.2560 เป็นรองเจ้าคณะภาค 16-17-18 (ธรรมยุต)

พ.ศ.2562 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบุรณศิริมาตยาราม และเป็นพระอุปัชฌาย์ วิสามัญ

พ.ศ.2564 เป็นรองเจ้าคณะภาค 17-18 (ธรรมยุต) พ.ศ.2565 เป็นเจ้าอาวาสวัดบุรณศิริมาตยาราม

พ.ศ.2566 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต-ตรัง-กระบี่ (ธรรมยุต)

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2531 เป็นพระครูปลัด ฐานานุกรมในพระราชบัณฑิต (คณิศร์ เขมวังโส) พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามที่ พระครูสุภัทรศาสนกร

พ.ศ.2544 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระภัทรธรรมสุธี

พ.ศ.2557 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชวินยาภรณ์

ล่าสุดวันที่ 28 มิ.ย.2566 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวชิรดิลก

สำหรับงานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ได้เป็นผู้แสดงธรรม บรรยายธรรม และแสดงปาฐกถาทั้งในวัด ในเขตปกครอง ในหน่วยงานของรัฐ เอกชน สถานศึกษาต่างๆ

นับเป็นความโดดเด่นในฐานะนักเทศน์นักเผยแผ่พระพุทธศาสนา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน