วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2566 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ในการประทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตกิตติมศักดิ์และผู้สำเร็จการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา พระสังฆาธิการ พระภิกษุ-สามเณร และคฤหัสถ์ สำเร็จการศึกษาทุกระดับชั้น จำนวนทั้งสิ้น 4,628 รูป/คน
โดยมีพระธรรมวัชรบัณฑิต (สมจินต์ สัมมาปัญโญ) อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พร้อมด้วยกรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ดุษฎีบัณฑิต มหาบัณฑิต บัณฑิต ทั้งในประเทศและต่างประเทศจากทั่วโลกถวายการต้อนรับ
ในปี พ.ศ.2566 สภามหาวิทยาลัยได้อนุมัติให้มีการมอบถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน 74 รูป/คน เข็มเกียรติคุณ 43 รูป/คน โดยปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มีพระภิกษุสงฆ์ผู้เป็นที่เคารพสักการะ ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาทั้งในประเทศและนานาชาติ เข้ารับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ อาทิ พระพรหมวชิรมงคลเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส, พระพรหมมุนีวัดพระศรีมหาธาตุบางเขน, พระธรรมวชิรดิลก วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นต้น
ส่วนพระเถระผู้ใหญ่ต่างประเทศซึ่งมาจาก 5 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา, สาธารณรัฐประชาชนจีน, ราชอาณาจักรกัมพูชา, สาธารณรัฐอินเดีย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ในประเทศ อาทิ นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่ม BJC บิ๊กซี, นายสุภชัย วีระภุชงค์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด, นายสมส่วน พรหมสว่าง (เพลิน พรหมแดน) เป็นต้น
โอกาสนี้ เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า
“ผู้สำเร็จการศึกษาทุกรูปทุกคน คงตระหนักแล้วว่า ความสำเร็จในชีวิตแต่ละขั้น จำเป็นต้องอาศัย ‘ความเพียร’ เป็นคุณธรรมสำคัญ ที่เสริมส่งให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์สมความปรารถนา ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากในสังคมปัจจุบันมักขาดความเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างเหตุกับผล มีนิสัยใจเร็วด่วนได้ ไม่รู้จักรอ และแสวงหาทางลัดเพื่อให้ได้ผลที่ตนประสงค์ ด้วยวิธีการทุจริต หรืออาศัยพิธีกรรมไร้สาระต่างๆ ทั้งนี้เพราะขาดความมั่นใจแน่วแน่ในหลักกรรม
ท่านทั้งหลายผู้ได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิต จึงมีหน้าที่สั่งสมอบรมตน ตลอดจนโน้มน้าวทัศนะของผู้คนในสังคม ให้มีศรัทธามั่นคงในเหตุและผลของการกระทำ ให้ตระหนักแน่แก่ใจว่าทุกข์ โทมนัส หรือภาวะไม่พึงประสงค์ทั้งปวงในชีวิต ย่อมไม่อาจจะล่วงพ้นไปได้ หากขาดความวิริยอุตสาหะ ในอันที่อบรมพัฒนาความรู้ความสามารถของตน จนกระทั่งเกิดสติ และปัญญาซึ่งจักนำพาความพ้นทุกข์ให้บังเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง สมดังพระพุทธภาษิตที่ว่า ‘วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ.’ ที่แปลว่า ‘คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร’ ทุกประการ”
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ในกำกับของรัฐ ปัจจุบันจัดการศึกษาในประเทศประกอบด้วย 11 วิทยาเขต 28 วิทยาลัยสงฆ์ 3 หน่วยวิทยบริการ และสถาบันสมทบในต่างประเทศอีก 5 แห่ง
มีทั้งหลักสูตรภาษาไทยและหลักสูตรอินเตอร์ ระดับชั้นปริญญาตรี-โท-เอก มีจำนวนทั้งสิ้น 20,346 รูป/คน ประกอบด้วยนิสิตปริญญาตรีจำนวน 14,356 รูป/คน นิสิตปริญญาโท 3,748 รูป/คน นิสิตปริญญาเอก 2,242 รูป/คน