“วันเสาร์ที่ 3 ก.พ.2567 น้อมรำลึกครบรอบ 136 ปี ชาตกาล “หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม” พระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนากัมมัฏฐานชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าอรัญญวิเวก บ้านข่า ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พระเถระชื่อดังที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา

เป็นกัมมัฏฐานศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่าที่ได้ติดตามบำเพ็ญกัมมัฏฐาน เผยแผ่ธรรมคำสอน ตลอดจนร่วมเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาทั่วทุกหนทุกแห่งทั่วทั้งภาคเหนือและอีสาน

อีกทั้งเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ด้วย

สร้างวัดป่าขึ้นหลายแห่งที่จ.เชียงใหม่ จนเป็นที่เคารพของชาวล้านนา ก่อนมุ่งหน้าไปตามป่าเขา บำเพ็ญเพียรบนภูเขาควายไปจนถึงประเทศพม่า

เกิดในสกุล ปลิปัตต์ เมื่อวันจันทร์ที่ 3 ก.พ.2431 เป็นชาวบ้านข่า ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม ช่วงเยาว์วัย อาศัยวัดเป็นลูกศิษย์วัด ด้วยอุปนิสัยรักสงบจึงเข้าพิธีบรรพชา

ครั้นอายุ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบทครั้งแรกในฝ่ายมหานิกาย โดยมีพระอุปัชฌาย์คาน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เป็นพระอุปัชฌาย์

ด้วยนิสัยใฝ่ศึกษาเล่าเรียนและชอบค้นคว้า หลังจากออกพรรษาได้เดือนเศษจึงเดินเท้าระยะทาง 51 กิโลเมตรไปศึกษาพระปริยัติธรรม วิชาบาลีสนธิ์นามและมูลกัจจายน์ที่วัดโพธิ์ชัย อ.ท่าอุเทน ที่มีชื่อเสียงมากขณะนั้น ใช้เวลา 4 ปีเต็ม

เดินธุดงค์แสวงความหลุดพ้น แวะพักทำกัมมัฏฐานที่พระบาทบัวบก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ผ่าน จ.หนองคาย ไปฝั่งลาว นครเวียงจันทน์ ก่อนมุ่งหน้าไปบำเพ็ญเพียรภาวนาที่เชิงภูเขาควายที่เต็มไปด้วยป่าทึบและภยันตรายเป็นเวลา 4 เดือนเต็ม

จากนั้นเดินทางต่อไปยังหลวงพระบาง ผ่านเมืองแมด เมืองกาสี และเข้าสู่เขตเมืองเชียงตุง ประเทศพม่า เรียนคาถาอาคมในการเดินทางเพื่อความปลอดภัยกับพระพม่า ค่ำที่ไหนนอนที่นั่น แต่ละวันท่านจะเดินทางเฉลี่ย 7-10 กิโลเมตร

ก่อนมุ่งหน้ากลับเข้าประเทศไทยมุ่งหน้าสู่จ.เชียงใหม่ เนื่องจากทราบว่าขณะนั้นพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ มาพำนักสอนและอบรมกัมมัฏฐาน

หลังไปกราบพระอาจารย์มั่นที่วัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงญัตติเป็นฝ่ายธรรมยุต โดยมีพระอุบาลีคุณูปมาจารย์เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูศรีพิศาลสารคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูนพีสีพิศาลคุณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลวงปู่ตื้อชอบอากาศทางภาคเหนือ สามารถบำเพ็ญธรรมได้โดยสงบ

ต่อมาได้สร้างวัดป่ากัมมัฏฐานขึ้นหลายแห่งคือ วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม, วัดป่าสามัคคีธรรม อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งวัดป่าที่ อ.แม่แตง แห่งนี้เป็นวัดที่อยู่จำพรรษานานที่สุด

ขณะธุดงค์กับพระอาจารย์มั่นไปตามสถานที่ต่างๆ จนพระอาจารย์มั่นกลับอีสานแล้ว แต่หลวงปู่ตื้อกลับเดินธุดงค์ต่อ

จนกระทั่งในปี พ.ศ.2514 หลังจากออกพรรษา ลูกหลานและทายก ทายิกา ชาวนครพนมได้ไปกราบอาราธนานิมนต์ให้กลับไปจำพรรษาที่วัดป่าอรัญญวิเวก ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม

เมื่อกลับสู่มาตุภูมิได้นำช่างมาก่อสร้างเจดีย์ สร้างเสร็จในปีพ.ศ.2516 และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมจัดงานฉลองสมโภช บวชชีพราหมณ์ 230 คน ตลอดจนแสดงธรรมไม่ว่างเว้น และอบรมพระภิกษุ-สามเณรให้รู้จักปฏิบัติกัมมัฏฐานอย่างแท้จริง

วันที่ 19 ก.ค.2517 หลังจากเทศนาให้โอวาทพระภิกษุสามเณรที่มาถวายสักการะ หลวงปู่ตื้อได้หมดลม เนื่องจากร่างกายอ่อนเพลีย ก่อนมรณภาพอย่างสงบเวลา 19.05 น. สิริรวมอายุ 86 ปี พรรษา 65

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน