ช่วงเช้าเวลา 08.43 น. วันที่ 27 ก.พ.2567 “พระมงคลธีรคุณ” (อินศร จินตาปัญโญ) รองเจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน และเจ้าคณะตำบลบ้านใหม่ ละสังขารอย่างสงบ ขณะปฏิบัติศาสนกิจที่วัดไทยพุทธคยา ประเทศสาธารณรัฐอินเดีย ด้วยวัยวุฒิ 71 ปี พรรษา 50
ระหว่างนำคณะพุทธศาสนิกชนไปนมัสการสังเวชนียสถาน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ก.พ.
หลังจากภาวนาที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิในตอนเช้าและกลับมายังที่พัก ก็เกิดอาการอาพาธ จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระพุทธเจ้า ภายในวัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศสาธารณรัฐอินเดีย แต่อาการทรุดลง
กระทั่ง มรณภาพ เวลา 08.43 น. ตามเวลาในประเทศอินเดีย (ตรงกับเวลา 10.13 น. ประเทศไทย)
สร้างความเศร้าสลดอาลัยแก่ศิษยานุศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง
“พระมงคลธีรคุณ” เป็นพระเถระผู้ใกล้ชิดสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต) เจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน อ.สามพราน จ.นครปฐม และที่ปรึกษามหาเถรสมาคมเป็นอย่างมาก
คอยเป็นผู้รับสนองธุระและปฏิบัติงานอย่างมิขาดตกบกพร่อง ขอรับแบ่งเบาภาระ ช่วยผ่อนงานพระเดชพระคุณให้เบาลง โดยเฉพาะด้านตำราวิชาการทางพระพุทธศาสนา ตั้งแต่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เป็นพระเถระที่มีวัตรปฏิบัติงดงาม ตามรอยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ผู้เป็นอนุสาวนาจารย์
มีนามเดิมว่า อินศร ดวงคิด เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 6 มี.ค.2496 ที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 11 บ้านป่าอ้อ ต.บัวสลี (ปัจจุบัน คือ ต.ป่าอ้อดอนชัย) อ.เมือง จ.เชียงราย บิดา-มารดา ชื่อ นายสุขและนางบัวเขียว ดวงคิด
บรรพชา เมื่อวันพุธที่ 22 มี.ค.2510 ที่วัดป่าอ้อ ต.บัวสลี อ.เมือง จ.เชียงราย มีพระอธิการจันแก้ว จันทวัณโณ วัดป่าไผ่ เป็นพระอุปัชฌาย์
อายุ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันพุธที่ 26 มิ.ย.2517 ที่พัทธสีมาวัดพระพิเรนทร์ มีพระพุทธิวงศมุนี (สุวรรณ สุวัณณโชโต) วัดเบญจมบพิตรฯ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูปลัดสมัย กิตติทัตโต วัดพระพิเรนทร์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระราชวรมุนี วัดพระพิเรนทร์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมชั้นเอก พ.ศ.2517 และสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค
พ.ศ.2524 สำเร็จปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พ.ศ.2527 สำเร็จศิลปศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเดลี ประเทศสาธารณรัฐอินเดีย
อยู่คู่กับความเป็นมาของวัดญาณเวศกวัน ตั้งแต่ยุคก่อตั้งวัด และเข้าอยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนี้ตั้งแต่เริ่มต้นยังเป็นสำนักสงฆ์กับคณะพระภิกษุจำนวน 3 รูป ซึ่งช่วยกันดูแลวัด ปฏิบัติศาสนกิจ เป็นหลักให้แก่พุทธบริษัทผู้ศรัทธาที่ช่วยกันดำเนินงานต่างๆ สร้างสรรค์พัฒนาวัดให้เจริญมั่นคงสืบมา จนกลายเป็นวัดญาณเวศกวันดังที่เห็นในปัจจุบัน
นับแต่ระยะแรกเริ่มที่วัดแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้น เมื่อมีผู้นำลูกหลานมาบวชเรียน มีพระใหม่รุ่นละเพียง 1-2 รูป พอจะจัดชั้นเรียนนวกภูมิได้ แม้บางทีมีนักเรียน 1 รูป ต่ออาจารย์ 2 รูป
รับภาระสอนพระนวกะอย่างนี้มาแต่ตั้งต้น นอกจากงานสั่งสอนเผยแผ่ธรรม ทั้งในวัดและภายนอกขยายกว้างออกไป กระทั่งมีกุลบุตรบวชเรียนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทำให้พระมงคลธีรคุณ นอกจากเป็นครูอาจารย์ของกุลบุตรจำนวนมากมาย ก็เป็นที่รู้จักเคารพนับถือของญาติโยมวัด และสาธุชนทั่วไปอย่างกว้างขวาง
ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2552 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน และเจ้าคณะตำบลบ้านใหม่
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2547 เป็นพระครูปลัดสุวัฒนพรหมคุณ (พระครูปลัดฐานุกรมพระราชาคณะเจ้าคณะรอง)
วันที่ 12 ส.ค.2559 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระมงคลธีรคุณ
ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต) มอบหมายภารกิจสนองงานเจ้าอาวาส ทั้งในด้านการปกครอง การศึกษา การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การสาธารณูปการ และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เหนื่อยง่าย จากปัญหาโรคทางเดินหายใจ
ยังคอยดูแลจัดระบบงานพิมพ์และอนุญาตแก่บุคคลทั่วไป ในการพิมพ์หนังสือธรรมนิพนธ์ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต) เพื่อเป็นงานธรรมทานให้เปล่า มาเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน โดยไม่มีผลประโยชน์ใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง
แม้กายดับสูญ แต่คุณงามความดียังอยู่ไม่มีวันเสื่อมคลาย
สำหรับกำหนดการพิธีบำเพ็ญกุศล ณ ญาณเวศก์ธรรมศาลา วัดญาณเวศกวัน ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม
สวดพระอภิธรรม วันที่ 2-7 มี.ค.2567 เวลา 19.00 น. แสดงพระธรรมเทศนา เวลา 19.30 น. พระสงฆ์จตุรวรรค พระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรม พิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร (ทำบุญ 7 วัน)
วันอังคารที่ 5 มี.ค.2567 เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ และฉันภัตตาหารเพล เวลา 12.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดมาติกา-บังสุกุล
การนี้ ขอความกรุณางดพวงหรีดด้วยประการทั้งปวง
