“หลวงปู่ขำ เกสโร” หรือ “พระครูโสภณสราธิการ” สิริอายุ 97 ปี พรรษา 76 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองแดง เป็นพระเถระที่อายุและพรรษามากที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์เมืองมหาสารคาม เป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เสมอต้นเสมอปลาย
หลวงปู่ขำ เกสโร
นอกจากนี้ ยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิทยาคมเข้มขลัง สืบสายธรรมจาก หลวงปู่เนาว์ ยโสธโร อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองแดง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม
เมื่อถึงวันที่ 6 มี.ค.ของทุกปี เป็นวันครบรอบวันคล้ายวันเกิด พุทธศาสนิกชนรวมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ทั้งใกล้และไกล ที่เคารพศรัทธาจะร่วมใจกันเดินทางมาร่วมทำบุญมุทิตาสัการะที่วัดหนองแดง อย่างพร้อมเพรียง
สำหรับปี พ.ศ.2567 ได้จัดงานมุทิตาสักการะเหมือนทุกปี โดยบรรยากาศการจัดงงานปีนี้ มีพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศพากันเดินทางมาร่วมงานนับพันคน นำอาหารและเครื่องดื่มมาเปิดเป็นโรงทานให้พุทธศาสนิกชนภายในงานดื่มกินฟรี
ภายในงานยังมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และหัวหน้าส่วนราชการ มาร่วมงานหลายคน อาทิ นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานพิธีทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล ครบ 97 ปี 76 พรรษา พ.จ.ท.ทองแดง ปินะเก นายอำเภอนาเชือก เป็นต้น
Advertisement
มีนามเดิมว่า นายขำ ธรรมดา เกิดเมื่อปี พ.ศ.2471 ที่บ้านหนองแดง ต.หนองกุง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม
อายุ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดบ้านค้อธิ โดยมีหลวงปู่รอด พรมสโร วัดหนองกุง อ.นาเชือก เป็นพระอุปัชฌาย์, เจ้าอธิการเนาว์ วัดหนองแดง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อสุบิน วัดหนองม่วง เป็นพระอนุสาวนาจารย์
จำพรรษาอยู่วัดบ้านหนองแดง ศึกษาพระธรรมวินัย สอบได้นักธรรมชั้นเอก อีกทั้งยังขอฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมจากหลวงปู่เนาว์ ยโสธโร อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งหลวงปู่เนาว์ ก็ถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น
เป็นพระที่เคร่งครัดในธรรมวินัย หลังออกพรรษาชมชอบออกไปธุดงค์ยังสถานที่ต่างๆ ตามป่าเขาในเขตพื้นที่ภาคอีสาน และบางปีขึ้นไปไกลถึง เขตอำเภอบางมูลนาก จ.พิจิตร พ.ศ.2501-03 มีโอกาสเข้ากราบนมัสการและฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่เขียน พระเกจิชื่อดัง แห่งวัดถ้ำขุนเณร
ต่อมาธุดงค์กลับมายังทางภาคอีสาน จำพรรษาที่วัดโนนสว่าง อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี เป็นระยะเวลากว่า 7 พรรษา จนถึงปี พ.ศ.2512 หลวงปู่เนาว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองแดง ซึ่งเป็นบูรพาจารย์ของท่านอาพาธหนักและก่อนมรณภาพได้สั่งให้ไปนิมนต์ท่านกลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านหนองแดง ซึ่งหลวงปู่ขำ ก็รับนิมนต์กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ตราบจนปัจจุบัน
สำหรับวัดหนองแดง ถึงจะเป็นวัดที่เก่าแก่สร้างขึ้นพร้อมกับการตั้งชุมชนตั้งแต่ปี พ.ศ.2470 แต่ยังคงเป็นวัดที่อยู่ในช่วงกำลังพัฒนา เสนาสนะยังมีไม่ครบ ท่านจึงร่วมแรงร่วมใจกับพุทธศาสนิกชน รวมทั้งคณะศิษยานุศิษย์พัฒนาวัดหนองแดง จนเจริญรุ่งเรือง อาทิ ศาลาการเปรียญ หอระฆัง ประตูโขง พระมหาเจดีย์ เป็นต้น
เป็นพระเถระที่อายุพรรษาสูงที่สุดในคณะสงฆ์ของเมืองมหาสารคาม เป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติดี ในแต่ละวันจึงมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบสักการะรับฟังธรรมและขอประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่เข้มขลังจากหลวงปู่ ถึงท่านจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนแต่หลวงปู่ก็มีพลังใจที่เข้มแข็งและอดทน
ถึงแม้จะอยู่ช่วงปัจฉิมวัย อายุกว่าเก้าสิบปีแล้วก็ตาม เคยพูดกับญาติโยมว่าจะอุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนาไปจนกว่าธาตุขันธ์จะแตกดับ
งานมุทิตาสักการะครั้งนี้ ยังประกอบพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรูปเหมือน เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่มาร่วมพิธี และผู้ที่บริจาคปัจจัยร่วมทำบุญสมทบก่อสร้างประตูโขงวัดหนองแดง โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมพิธีอธิษฐานจิตหลายรูป อาทิ หลวงปู่ขำ, หลวงปู่อุดมทรัพย์ สิริคุตโต, หลวงปู่พิมพา พลญาโณ, หลวงปู่ณรงค์ สาโม, หลวงพ่อสุริยันต์ โฆสปัญโญ เป็นต้น
เป็นอีกวาระหนึ่งที่ได้ร่วมใจกันทำบุญอย่างพร้อมเพรียง
เชิด ขันตี ณ พล
