ข่าวเศร้าในวงการสงฆ์ “พระครูเกษมวรกิจ” หรือ “หลวงพ่อวิชัย เขมิโย” เจ้าอาวาสวัดถ้ำผาจม ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา 10.06 น. วันศุกร์ที่ 15 มี.ค.2567 ที่โรงพยาบาลคลองหลวง จ.ปทุมธานี

สิริอายุ 78 ปี พรรษา 58

ก่อนหน้าจะมรณภาพ มาจำพรรษาที่วัดพุทธวิชยาราม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ

กระทั่งช่วงเช้า วันที่ 15 มี.ค. คณะศิษย์พบร่างหมดสติบนที่นอน จึงประสานงานรถกู้ชีพปั๊มหัวใจ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด ปรากฏว่าร่างกายไม่ตอบสนอง และแพทย์ได้แจ้งการมรณภาพในเวลาต่อมา

สร้างความเศร้าสลดอาลัยเป็นอย่างยิ่ง

มีนามเดิม วิชัย คล่องแคล่ว เกิดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2488 ปีระกา ที่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 5 บ้านหินลาด ต.กุดชมภู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

บิดา-มารดา ชื่อ นายบัวและนางกอง คล่องแคล่ว ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา บิดาเสียตั้งแต่ท่านอายุขวบกว่า

พ.ศ.2500 จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนบ้านหินลาดแสนตอ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

บรรพชา อายุ 17 ปี พ.ศ.2506 ที่วัดเวฬุวัน บ้านหนองไผ่ ต.ดอนจิก อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี มี พระครูสุนทรธรรมวิบูลย์ วัดมุจลินทราราม ต.ดอนจิก เป็นพระอุปัชฌาย์

มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นตรี ณ เบื้องต้น

กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท วันที่ 26 พ.ย.2508 ที่อุโบสถวัดสว่างอารมณ์ อ.หัวคอน จ.อุบลราชธานี มีเจ้าอธิการหนู คมภีโร วัดทุ่งศรีวิไล ต.ชีทวน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2509 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท ที่สำนักเรียนทุ่งศรีวิไล

พ.ศ.2512 ออกเดินธุดงค์อยู่ตามภูเก้า อ.หนองบัวลำภู แถบนั้นมีป่าเขามาก ในปีนั้น เดินกลับมาจำพรรษาอยู่วัดบ้านกุดจิก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ก่อนเดินทางออกธุดงค์ไปเวียงจันทน์อยู่นานพอสมควร จึงข้ามกลับมาประเทศไทย

พ.ศ.2514 เดินทางไปอบรมพระพัฒนาการทางจิต ที่จิตตภาวันวิทยาลัย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เสร็จจากการอบรมเป็นเวลาสามเดือน เดินทางกลับ จ.อุดรธานี อีกครั้งหนึ่ง

เดินทางไปในหลายพื้นที่ ครั้งหนึ่งมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ มีจังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดแรก ได้ยินกิตติศัพท์ของครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง มีความตั้งใจจะไปศึกษาธรรมด้วย ได้ไปถึงเชียงใหม่ตามความตั้งใจ ครั้งแรกไปพักอยู่ที่วัดอุโมงค์ ย้ายไปพักอยู่ 4 วัดเมืองบาง

จากนั้น เดินไปวัดน้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง บำเพ็ญเพียรปฏิบัติอยู่ที่นี่นานพอสมควร และตั้งใจท่องปาฏิโมกข์จบอยู่ที่วัดแห่งนี้

ก่อนเดินทางต่อจากเชียงใหม่เข้าจังหวัดลำพูน พักศึกษาธรรมกับครูบาเจ้าพรหมจักร เป็นเวลานานพอสมควร เดินทางต่อขึ้นไปทางจังหวัดลำปาง ไปถึงเชียงราย ต่อถึงอำเภอแม่สาย ข้ามไปประเทศพม่าจะเดินทางต่อไปเชียงตุง ตั้งใจจะไปจำพรรษาที่จังหวัดเชียงตุง แต่เจ้าหน้าที่ฝั่งพม่าไม่อนุญาตให้เข้าไป จึงเดินวนไปมาในพื้นที่ จ.เชียงราย จนล่วงใกล้เข้าพรรษา จึงได้มาพักจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำผาจม ซึ่งขณะนั้นยังเป็นป่าเขาและเงียบสงบ เหมาะสมกับผู้แสวงหาความวิเวก จึงตั้งใจปฏิบัติเต็มที่

เมื่อได้มาอยู่ที่วัดถ้ำผาจม ได้ร่วมกับชาวบ้านในชุมชนพัฒนาก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ เริ่มขึ้นในปี พ.ศ.2518 โดยเริ่มตั้งแต่ศาลาปฏิบัติธรรมหลังเก่า อุโบสถ เป็นต้น

วัดถ้ำผาจม ตั้งเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2526 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ.2526

งานศึกษา พ.ศ.2509 เป็นครูสอนปฏิบัติธรรม แผนกธรรม (บาลี) สำนักศาสนศึกษา วัดสว่างอารมณ์ พ.ศ.2527 เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษา วัดถ้ำผาจม

พ.ศ.2542 ได้รับแต่งตั้งให้วัดถ้ำผาจมเป็น “ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ”

งานเผยแผ่พระศาสนา ดำเนินการเผยแผ่ตามกิจนิมนต์ จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2520 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดถ้ำผาจม พ.ศ.2537 เป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำผาจม

ทั้งนี้ ได้สร้าง “วัดพุทธวิชยาราม” คลอง 6 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติภาวนา

สำหรับงานบำเพ็ญบุญกุศลจัดที่วัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ.เชียงราย

วันที่ 16-22 มี.ค. สวดพระอภิธรรม หลังจากนั้น สวดพระอภิธรรมเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ไปจนถึงวันที่ 21 เม.ย.2567

วันที่ 21 เม.ย. กำหนดประชุมเพลิงสลายสรีรสังขาร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน