วันจันทร์ที่ 25 มี.ค.2567 น้อมรำลึกครบรอบ 98 ปี ชาตกาล “พระครูอดุลพิริยานุวัตร” หรือ “หลวงพ่อชุบ ปัญญาวุโธ” อดีตเจ้าอาวาสวัดวังกระแจะ ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พระเกจิสืบสายวิชาจากหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า ร่ำเรียนจากอาจารย์รื่น นิลแนบแก้ว ทำให้ได้สืบทอดวิชาการสักยันต์ เด่นรอบด้านรวมทั้งวิทยาคม การทำตะกรุดและเครื่องราง

อีกทั้งยังสืบทอดวิชาสายหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จากพระมหาสิทธิการ (ทอง) วัดเพชรสมุทร จ.สมุทรสงคราม ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อครั้งจำพรรษาอยู่ที่วัดเพชรสมุทร (วัดบ้านแหลม)

นอกจากนี้ ยังเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอไทรโยคด้วย

อัตโนประวัติเกิดวันศุกร์ที่ 25 มี.ค.2469 ตรงกับแรม 8 ค่ำ เดือน 4 ปีขาล มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 5 คน

ในช่วงวัยเยาว์ มีความสามารถด้านศิลปะวาดเขียนมากกว่าเด็กอื่นๆ ในวัยเดียวกัน ในช่วงวัยรุ่นท่านฝากตัวเป็นศิษย์และได้รับการถ่ายทอดวิชาการสักยันต์และวิทยาคมต่างๆ จากอาจารย์รื่นนิลแนบแก้ว เมื่อครั้งที่เปิดสำนักสักยันต์ที่ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม

สำหรับอาจารย์รื่น เป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองไทย และอาจารย์รื่นยังเป็นพระสหายกับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2491 ที่วัดคู้สนามจันทร์ ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม มีหลวงพ่อกลึงธัมมโชติ วัดสวนแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการเจียม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการปิ่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์

จำพรรษาอยู่วัดคู้สนามจันทร์ 4 พรรษา จากนั้นย้ายไปจำพรรษาและศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดเพชรสมุทร และยังศึกษาสรรพวิชาเพิ่มเติมจากพระมหาสิทธิการ (ทอง) วัดเพชรสมุทร ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม

เริ่มออกท่องธุดงค์ไปยังจังหวัดต่างๆ เช่น นครศรีธรรมราช ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี

พ.ศ.2505 เดินธุดงค์มาที่ จ.กาญจนบุรี และได้เดินทางจนมาถึงถ้ำละว้า มีญาติโยมนิมนต์ให้มาพักที่บ้านวังกระแจะ และสร้างกุฏิให้อยู่เป็นไม้ไผ่มุงแฝก 1 หลัง จากนั้นได้สร้างกุฏิไม้แบบถาวรให้ 1 หลัง

เพื่อหาปัจจัยมาสร้างวัดวังกระแจะตามที่ชาวบ้านศรัทธา และขอให้สร้างวัดให้เป็นวัดประจำหมู่บ้าน

ด้วยถือสัจจะเป็นใหญ่ เมื่อรับปากชาวบ้านว่าจะสร้างวัดให้ ก็ดำเนินการจนสำเร็จ

พ.ศ.2511 ตั้งเป็นวัดอย่างเป็นทางการ พ.ศ.2514 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.2533 ทำพิธีผูกพัทธสีมาอุโบสถ

ได้รับตำแหน่งหน้าที่ปกครอง พ.ศ.2513 เป็น เจ้าอาวาสวัดวังกระแจะ ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พ.ศ.2517 เป็นเจ้าคณะตำบลท่าทุ่งนา และต่อมาได้ย้ายมาเป็นเจ้าคณะตำบล วังกระแจะ

พ.ศ.2522 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2526 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอไทรโยค

พ.ศ.2549 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอไทรโยค

งานด้านการศึกษา พ.ศ.2498 ได้รับการแต่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม พ.ศ.2499 ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจข้อสอบธรรมสนามหลวง พ.ศ.2501 ได้รับการแต่งตั้งเป็นครูสอนบาลี พ.ศ.2513 เป็นเจ้าสำนักเรียนประจำสำนักเรียนวัดวังกระแจะ

งานสาธารณูปโภค ช่วยสงเคราะห์ พ.ศ.2516 สร้างอุโบสถ พ.ศ.2519 สร้างกุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ หอฉัน หอสวดมนต์ ห้องนํ้า พ.ศ.2534 สร้างเมรุ ศาลาฌาปนสถาน และห้องน้ำใหม่ พ.ศ.2547 สร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่

งานเผยแผ่พุทธศาสนา พ.ศ.2524 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูตเผยแผ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (อินเดีย)

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2519 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามที่ พระครูอดุลพิริยานุวัตร

อย่างไรก็ตาม ด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร จึงมีอาการอาพาธ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัด ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา โดยเข้ารักษาตัวนานกว่า 2 เดือน

กระทั่งเวลา 20.40 น. วันที่ 20 เม.ย.2565 ละสังขารด้วยอาการสงบ

สิริอายุ 96 ปี พรรษา 74

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน