“ทุ่งตะโก” เป็นเพียงอำเภอเล็กๆ ของจังหวัดชุมพร แต่มีนามพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ผู้เคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดชุมพร (ธรรมยุต) ปรากฏอยู่ในอำเภอแห่งนี้

พระราชภาวนาวชิรมงคล วิ. (บุญเกียรติ กุลโสภโณ) หรือพระอาจารย์ตุด อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมถาวร ต.ทุ่งตะไคร้ อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดชุมพร

มีผลงานด้านการพัฒนามากมาย วัตถุมงคลที่จัดสร้างและอธิษฐานจิตปลุกเสกมีโด่งดังอยู่หลายรุ่น อาทิ เหรียญล็อกเกตรูปไข่ รุ่นแรก เหรียญโลหะทองแดงรูปไข่พิมพ์นิยม รุ่น 2 รุ่นหายห่วง เหรียญโลหะทองแดงรูปพิมพ์นิยม รุ่น 3 รุ่นเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น

นามเดิม บุญเกียรติ จินาห้อง เกิดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2474 ตรงกับวันจันทร์ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 8 ปีมะแม ที่บ้านหนองจิก หมู่ 1 ต.ทุ่งตะไคร้ อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร

เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ตอบแทนพระคุณบุพการีด้วยการเข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 12 พ.ค.2494 ณ พัทธสีมาวัดธรรมถาวร จ.ชุมพร

มีพระธรรมารามคณี วัดโตนด อ.หลังสวน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระวินัยกิจจารักษ์ วัดทัพชัย อ.หลังสวน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกาชม ติสสโร วัดธรรมถาวร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา กุลโสภโณ

พ.ศ.2499 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดธรรมถาวร และหัวหน้าสำนักสงฆ์วัดผุสดีภูผาราม

เนื่องจากเป็นวัดในชนบท มีเนื้อที่ 53 ไร่ แต่ไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ โดยเฉพาะศาลาการเปรียญที่เคยสร้างไว้เริ่มชำรุดทรุดโทรมจนต้องรื้อถอนไปแล้ว แต่ด้วยศรัทธาของพุทธศาสนิกชนและความมุ่งมั่นจึงได้พัฒนาวัดให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของชุมชน








Advertisement

วัดธรรมถาวรสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2457 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระอธิการคง นารโท เป็นผู้บุกเบิกสร้าง เดิมชื่อวัดดอนโตนด ต่อมาปี พ.ศ.2465 สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมวชิรญาณวงศ์เสด็จจากวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ได้ประทานนามวัดให้เป็น วัดธรรมถาวร มีความหมายว่า ศาสนสถานที่ยึดมั่นในธรรมอย่างมั่นคง

กาลต่อมาเมื่อวัดธรรมถาวรว่าง สมภารและจะหาพระภิกษุที่เหมาะสมเพื่อเป็นเจ้าอาวาส มัคนายกพร้อมด้วยชาวบ้านได้ประชุมปรึกษาหารือเพื่อจะสรรหาเจ้าอาวาสที่มีความสามารถ จะได้พัฒนาวัดให้เจริญก้าวหน้า

ในที่สุดเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นพระอาจารย์ตุดเป็นพระภิกษุในท้องถิ่น มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันเดินทางไปนิมนต์เดินทางมาจำพรรษา และรับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมถาวร สืบต่อมา

ทำนุบำรุงพระศาสนาและเป็นผู้ที่เอาใจใส่ในกิจการของพระศาสนาด้วยดีตลอดมา เป็นพระเถระที่มีกิตติศัพท์ที่เลื่องลือและสำคัญรูปหนึ่ง

วัตรปฏิบัติตั้งมั่นในพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด สร้างคุณูปการแก่พระศาสนาอเนกประการ อบรมสั่งสอนให้ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2499 เป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมถาวร พ.ศ.2508 เป็นเจ้าคณะตำบลนาโพธิ์ เขต 1 พ.ศ.2520 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอสวี พ.ศ.2522 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2529 รักษาการเจ้าคณะอำเภอหลังสวน และรักษาการเจ้าอาวาสวัดโตนด อ.หลังสวน พ.ศ.2534 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอสวี ทุ่งตะโก

พ.ศ.2544 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดชุมพร (ธรรมยุต)

พ.ศ.2546 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดชุมพร (ธรรมยุต)

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2512 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นเอก ที่ พระครูโสภณธรรมโกวิท พ.ศ.2529 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2534 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2544 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะจังหวัด ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระมุนีสารโสภณ

ล่าสุดวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระราชภาวนาวชิรมงคล วิมลภาวนาวรกิจ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

ตลอดเวลาในการครองตนยึดหลักเมตตาธรรม ส่งผลให้พระภิกษุ-สามเณรในปกครองไม่เคยปฏิบัติออกนอกลู่นอกทาง แต่ละปีจึงมีสหธรรมิกมาจำพรรษาศึกษาเล่าเรียนที่วัดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก

ด้วยสังขารไม่เที่ยง พระราชภาวนาวชิรมงคลละสังขารอย่างสงบด้วยโรคชราเมื่อเวลา 21.44 น. วันที่ 6 เม.ย.2567 ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี

สิริอายุ 92 ปี พรรษา 72

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน