อำเภอนาดูน อยู่ห่างจากตัวเมืองมหาสารคาม ประมาณ 63 กิโลเมตร

จากการขุดค้นทางโบราณคดีพบว่าพื้นที่อำเภอนาดูน อดีตเคยเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณเป็นสถานที่ตั้งของ “นครจำปาศรี” ที่เคยเจริญรุ่งเรืองในสมัยทวารวดี เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 13-15 ยังปรากฏหลักฐานว่าบริเวณนี้ เจริญรุ่งเรืองในยุคสมัยขอม อายุประมาณ 800 ปี มีหลักฐานปรากฏเป็นโบราณสถานอยู่หลายแห่ง

สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของอำเภอนาดูน ที่นักแสวงบุญเข้ามาในพื้นที่ อ.นาดูน ทุกคนจะต้องเข้าไปกราบสักการะขอพร นั่นคือ พระบรมธาตุนาดูน ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่มาได้กราบไหว้สักการบูชาเกิดสิริมงคล

สำหรับ พระบรมธาตุนาดูน องค์นี้ ย้อนไปในปี พ.ศ.2522 กรมศิลปากรและชาวบ้านตำบลนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ขุดพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระพิมพ์ดินเผาจำนวนหนึ่งบริเวณเนินดิน ซึ่งเป็นซากโบราณสถานบริเวณที่นาของราษฎรท้องที่หมู่ 1 ต.นาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม จากหลักฐานที่พบ คาดว่าอยู่ในยุคทวารวดี อายุประมาณ 1,300 ปี

พระบรมสารีริกธาตุที่พบ มีสัณฐานเป็นเกล็ดขาวขุ่นเท่าเมล็ดข้าวสารหักครึ่ง ประดิษฐานในผอบ 3 ชั้น ชั้นในสุดเป็นทองคำ ชั้นกลาง เป็นเงิน ชั้นนอกเป็นสำริด สอดซ้อนกันเรียงตามลำดับและบรรจุอยู่ในสถูปจำลองอีกชั้นหนึ่ง ลักษณะเป็นโลหะทรงกลมสูง 24.4 ซ.ม. ถอดออกเป็น 2 ส่วน ยอดสูง 12.3 ซ.ม. องค์สถูปสูง 12.1 ซ.ม.

จึงเสนอเรื่องให้ทางราชการ จัดสร้างพระบรมธาตุนาดูน เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา

รูปแบบของพระบรมธาตุนาดูนประยุกต์จากรูปทรงสถูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดพบซึ่งเป็นลักษณะของศิลปะทวารวดีช่วงอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-16 พระบรมธาตุนาดูนมีความสูง 50.5 เมตร ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส 35.70 เมตร สิ้นค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 7.5 ล้านบาทเศษ การก่อสร้างแล้วเสร็จ

ในปีพ.ศ.2530 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานไว้ในองค์เจดีย์พระบรมธาตุนาดูน และคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาให้เป็นพุทธมณฑลอีสาน

นับแต่นั้นเป็นต้นมา องค์พระบรมธาตุนาดูน กลายเป็นศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนชาวมหาสารคามและชาวอีสานสืบมา

ในทุกปี ชาวมหาสารคามจัดปฏิบัติธรรมแสวงบุญปีละ 4 ครั้ง ในวันสำคัญทางศาสนา คือ วันมาฆบูชา, วันวิสาขบูชา, วันอาสาฬบูชา และวันเข้าพรรษา นับแต่นั้นมาพระบรมธาตุนาดูน กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญอันดับหนึ่งของอำเภอนาดูน ในวันสำคัญทางศาสนาหรือวันหยุด จะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางเข้ามานมัสการเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ในเขตพื้นที่ อ.นาดูน มีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมทางศาสนาหลายแห่ง ที่มีชื่อเสียงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวสายบุญ อาทิ วัดป่าเรไร และวัดโพธาราม อยู่ในพื้นที่ ต.ดงบัง ห่างจาก อ.นาดูน ประมาณ 10 กิโลเมตร

ความสำคัญของวัดทั้ง 2 แห่ง คือ พระอุโบสถหรือที่ชาวอีสานเรียกว่า “สิม” จะมีภาพฮูปแต้ม หรือภาพจิตรกรรมฝาผนังปรากฏอยู่ทั้งในและภายนอกสิม เป็นภาพเขียนโบราณฝีมือบรรพชนชาวอีสาน ในส่วนของสีที่ใช้เขียนเป็นสีฝุ่นประกอบด้วยสีน้ำตาล เขียวคราม น้ำเงิน เป็นหลัก ข้อมูลของกรมศิลปากรยืนยันว่าสิมและภาพฮูปแต้ม น่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี

โดยสิมอีสาน ทั้งสองวัดนี้ ด้านในจะวาดภาพเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา เช่น พุทธประวัติ พระเวสสันดรชาดก ส่วนภาพผนังด้านนอก จะเป็นวรรณกรรมท้องถิ่น เช่น สินไซ พระมาลัย เป็นต้น การถ่ายทอดเรื่องราวของช่างพื้นบ้าน ถือเป็นหลักฐานบันทึกเรื่องราวในอดีตของผู้คน ชุมชน ประเพณีวัฒนธรรมไปจนถึงเรื่องราวทางศาสนา ผ่านภาพวาดประดับไว้ฝาผนังสิมอย่างสวยงาม

นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยววัฒนธรรมสมัยขอมปรากฏให้เห็นเป็นโบราณสถานหลายแห่ง อาทิ กู่สันตรัตน์ กู่ศาลานางขาว เป็นต้น มีอายุราว 800 ปี สร้างด้วย ศิลาแลงเป็นวัสดุหลัก ใช้เป็นศาสนสถานในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาทั้งในศาสนาฮินดูและพระพุทธศาสนานิกายมหายาน

เป็นหลักฐานยืนยันว่าพื้นที่ อ.นาดูน หรือ นครจำปาศรี ในอดีตเคยเจริญรุ่งเรือง 2 ยุค คือ ยุคทวารวดี และยุคขอม

สถานที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอีกแห่ง คือ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกู่สันตรัตน์ ตั้งอยู่ใกล้กับโบราณสถานกู่สันตรัตน์ ได้รับประมาณสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์โบราณสถานและโบราณคดี ภายในอาคารมีการแบ่งโซนจัดแสดงออกเป็นหลายส่วน 1.ห้องโบราณวัตถุสมัยขอม ที่ขุดพบในเขต ต.กู่สันตรัตน์ อาทิ รูปปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสี่กรประทับยืน 2.ห้องแสดงโบราณวัตถุที่เป็นพระกรุพระธาตุนาดูน โดยได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากร ให้นำมาจัดแสดงรวม 15 พิมพ์ และ 3.ห้องจัดแสดงโบราณวัตถุอื่นๆ ที่ชาวบ้านขุดพบนำมาบริจาคให้ อาทิ เครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชุมชน พวกเครื่องจักสาน หม้อ ไห เครื่องมือทำการเกษตร เป็นต้น

เป็นการรวบรวมสิ่งของตั้งแต่แต่ยุคก่อนมาจนถึงยุคปัจจุบัน
เปิดให้ชมฟรีทุกวัน ไม่มีหยุด

เชิด ขันตี ณ พล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน