ปราศรัยการเมืองของ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ปราศรัยที่ร้อยเอ็ด
ปราศรัยการเมืองของสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ปราศรัยที่ร้อยเอ็ด : ปรากฏการณ์ที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กระโจนลงจากเวทีปราศรัยเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชาวบ้านที่ร้อยเอ็ดสร้างความตื่นตะลึงเป็นอย่างสูง
เพราะไม่เพียงแต่ “นักการเมือง” จะเล่นบทเหมือน “นักร้อง”
หากทำให้เห็นด้วยว่า การสมานอย่างเป็นเนื้อเดียวกันระหว่างชาวบ้านกับนักการเมืองที่มาจากพรรคการเมืองซึ่งได้รับความนิยมนั้นดำเนินไปอย่างไร
นี่ย่อมแตกต่างไปจากการเดินสายของ “นักการเมือง” ที่มาจาก “ข้าราชการ”
ขณะเดียวกัน ปรากฏการณ์เช่นนี้สะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “คนพูด” กับ “คนฟัง” อย่างแนบแน่น
ยากที่จะแยกออกจากกันได้แม้กระทั่งเครื่องมือ “รัฐประหาร”
พรรคเพื่อไทยมีรากฐานมาจากพรรคพลังประชาชน ขณะเดียวกัน พรรคพลังประชาชนก็มีรากฐานมาจากพรรคไทยรักไทย
พื้นที่ของพรรคเพื่อไทยจึงเป็น “ภาคอีสาน”
การชุมนุมของมวลชนในห้วงเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 เด่นชัดเป็นอย่างยิ่งว่ามวลชนด้านหลักในการชุมนุมไม่ว่าบนถนนราชดำเนิน ไม่ว่าที่แยกราชประสงค์มาจากที่ใด
ยิ่งกว่านั้นความโดดเด่นของพรรคเพื่อไทยก็มาจาก “ภาคอีสาน”
การเดินสายปราศรัยของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เริ่มจากอุบลราชธานี ไปยโสธรและจบลงที่ร้อยเอ็ด
ยิ่งเห็นภาพ “มวลชน” ยิ่งได้รับการห้อมล้อมจาก “มวลชน” ยิ่งคึกคัก
มีคนสรุปมานานแล้วว่า ระหว่างคนพูดกับคนฟังไม่ว่าบนเวทีหอประชุม ไม่ว่าบนเวทีปราศรัยดำเนินไปอย่างมีสายสัมพันธ์ต่อกันและกันอย่างใกล้ชิด
ตอนเริ่มต้นถือได้ว่า “คนพูด” เป็นฝ่าย “กำหนด”
แต่เมื่อการพูดพัฒนาไปจนสามารถสร้างอารมณ์ “ร่วม” ให้กับ “คนฟัง” ได้จนกระทั่งแสดงออกในเชิงชื่นชอบ เห็นด้วย
ไม่ว่าด้วยการปรบมือ ไม่ว่าด้วยการโห่ร้อง
ขั้นตอนนี้แหละที่อิทธิพลจากปฏิกิริยาของ “คนฟัง” จะมีส่วนเข้าไปกำหนดบทบาทของ “คนพูด” ให้เป็นไป อย่างที่คนฟังต้องการ
นั่นแหละจึงปรากฏภาพดังที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แสดงออก
ไม่ว่าจะมองจากมุมการส่งผลสะเทือนระหว่างคนฟังกับคนพูด ระหว่างคนพูดกับคนฟัง แต่ที่แน่นอนอย่างที่สุดรูปธรรมนี้เป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทย
แสดงถึงสถานะและความนิยมของพรรคในภาคอีสาน
ขณะเดียวกัน ก็แสดงถึงการยอมรับสถานะของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ดำรงอยู่ภายในพรรคเพื่อไทยอีกด้วยว่าเป็นอย่างไร
ทะยานไปข้างหน้าแน่นอน ไม่มีถอยหลังกลับ
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง