พื้นฐานภาคใต้ “ประชาธิปัตย์” ซวดเซ ถูกรุม รอบด้าน

วิเคราะห์การเมือง – ปรากฏการณ์การจ่ายเงินพร้อมกับริบบัตรประชาชนในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ที่มีการโวยผ่าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ไม่เพียงแต่สะท้อนสถานะของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ว่าดำรงอยู่อย่างไร

หากยังแสดงให้เห็นถึงความพยายามรุกคืบของพรรคการเมืองอื่นเข้าไป

เพราะว่าคู่กรณีที่แม้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ระบุเพียงว่ามีตำแหน่งใหญ่ในจังหวัด ไม่ได้ระบุชื่อเสียงเรียงใด และไม่ได้ระบุว่าทำให้พรรคการเมืองใด

ปรากฏว่าฝ่ายที่ออกมาตอบโต้ในเรื่องนี้กลับเป็นพรรคภูมิใจไทย

เท่ากับแสดงให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทยก็มีเป้าหมายที่จะทะลวงเข้าไปในพื้นที่จังหวัดพัทลุงอันเป็นพื้นที่ในความยึดครองของพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน

คำถามก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์

ต้องยอมรับว่าในเบื้องต้นพรรคประชาธิปัตย์ได้รับผลกระทบในพื้นที่ภาคใต้จาก 2 ปรากฏการณ์อันมากด้วยความแหลมคมทางการเมือง

1 มาจากความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์เอง

นั่นก็คือ การแยกตัวออกไปเป็นกำลังสำคัญในการจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อันทำให้หลายคนในพรรคประชาธิปัตย์ไม่นิ่ง

1 มาจากการเกิดขึ้นของพรรคประชาชาติ

ไม่ว่าผลสะเทือนจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะมีมากน้อยเพียงใด แต่ที่แน่ๆ ก็คือ การเกิดขึ้นของพรรคประชาชาติทำให้ความมั่นใจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์สั่นคลอน

ตรงนี้เองที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยมีความหวังในการร่วมเจาะทะลวงด้วย

กระนั้น สถานการณ์ก่อนการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมยิ่งชี้ชัดมากยิ่งขึ้นว่า ไม่เพียงแต่การเคลื่อนไหวจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย และพรรคประชาชาติ จะส่งผลสะเทือน

หากการเคลื่อนไหวของพรรคอนาคตใหม่ก็ไม่อาจมองข้ามได้

โอกาสของพรรคอนาคตใหม่อยู่ที่แฟนเก่าของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตีตัวออกต่างหากยังไม่สามารถหันไปเลือกพรรคที่เคยแนบแน่นกับพรรคเพื่อไทย

จึงเห็นว่าพรรคอนาคตใหม่ต่างหากคือทางเลือกที่จะมาชดเชยพรรคประชาธิปัตย์

ขณะที่พรรคประชาชาติ พรรคไทยรักษาชาติ เข้าไปรักษาพื้นฐานเก่าของพรรคเพื่อไทย หนทางของพรรคอนาคตใหม่ก็เริ่มเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น

ปัจจัยเหล่านี้ในที่สุดก็ไปบั่นทอนพรรคประชาธิปัตย์

หากมองในขอบเขตทั่วประเทศก็ต้องยอมรับว่าภาคใต้เป็นฐานเก่า เป็นฐานอันแข็งแกร่งของพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน

แต่ผ่านรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 พรรคประชาธิปัตย์ก็มากด้วยจุดอ่อน

เป็นจุดอ่อนที่บั่นทอนฐานเสียงและความแข็งแกร่งดั้งเดิมลงไปเป็นอย่างมาก ประกอบกับคู่ต่อสู้ก็ปรับยุทธวิธีเพื่อที่จะทะลวงเข้าไปภายในจุดอ่อนนั้นของพรรคประชาธิปัตย์

เป้าหมายก็คือ ลดทอนกำลังพรรคประชาธิปัตย์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน