สุจริต จริงใจ ของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พลังประชารัฐ
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ – คล้ายกับว่าคำประกาศ ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันมาจากพรรคประชาธิปัตย์ โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์สุดเท่
โดยเฉพาะในสถานการณ์ขาลงของ “ลุง”
แต่พลันที่มีการยืนยันจากพรรคประชาธิปัตย์ โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าพร้อมร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ บนเงื่อนไขที่ยินยอมให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
ความเท่ก็เริ่มปรากฏไฝฝ้าและราคีขึ้น
เป็นไฝฝ้าและราคีจากสภาพความเป็นจริงการก่อรูปขึ้นของพรรคพลังประชารัฐ เป็นไฝฝ้าและราคีอันสามารถแปดเปื้อนกับพรรคประชาธิปัตย์โดยอัตโนมัติ
นับแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 เป็นต้นมา ภาพการก่อรูปขึ้นของพรรคพลังประชารัฐ ล้วนอยู่ในกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ของพรรคและนักการเมือง
ไม่เว้นแม้กระทั่งจากพรรคประชาธิปัตย์
เพราะการดูดคนอย่าง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประสานกับคนอย่าง นายบุญเลิศ ไพรินทร์ ก็ล้วนแต่เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์
เจตนาของการดูดก็เพื่อไปหนุนการสืบทอดอำนาจของ “ลุง”
การที่พรรคประชาธิปัตย์ปฏิเสธ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ยินดีอ้าแขนรับพรรคพลังประชารัฐ จึงเข้าทำนอง “กินน้ำเห็นปลิง”
กระบวนท่าของพรรคประชาธิปัตย์ โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เช่นนี้จึงถูกมองด้วยความคลางแคลงใจไปยังหลักการ “ประชาธิปไตยสุจริต”
ก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์ก็สร้างข้อกังขามาแล้ว
นั่นก็เห็นได้จากการไปร่วมสวมกอดกับ นายเนวิน ชิดชอบ อย่างแนบแน่น เมื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลในเดือนธันวาคม 2551 ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเคยด่าว่าสารพัด
เช่นนี้เอง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จึงโกรธเกรี้ยวเป็นพิเศษ
เพราะมิใช่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะเลขา ธิการพรรคหรอกหรือที่มีส่วนให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปโอบกอด นายเนวิน ชิดชอบ ราวกับรักกันปานจะ กลืนกิน
ท่วงทำนองของพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่เพียงแต่ชวนให้กังขาว่า เข้าลักษณะ “เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลซดน้ำแกง” อย่างที่โบราณว่าไว้
หากแต่เข้าข่าย “ขว้างงูไม่พ้นคอ”
นั่นก็คือ งูว่าด้วยไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับงูว่าด้วยพร้อมยอมรับพรรคพลังประชารัฐอยู่ร่วมเรือลำเดียวกัน
เจตนาก็คือ พร้อมกินหัว กินหาง กินกลางตลอดตัวแต่เพียงผู้เดียว