บทบาท การเมือง หลังยุบ ไทยรักษาชาติคึกคัก และเข้มข้น
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
วิเคราะห์การเมือง – การยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง ถือเป็นมาตรการลงโทษทางการเมืองที่รุนแรงที่สุด กระทั่งบางคนสรุปว่าเท่ากับเป็นการประหารชีวิต
แต่จากกรณีการยุบพรรคไทยรักษาชาติกลับทำท่าจะไม่เป็นเช่นนั้น
ในทางนิตินัย คำวินิจฉัยยุบพรรคมีผลให้พรรคไทยรักษาชาติหมดบทบาท มีผลให้กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติหมดบทบาท
ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี
แต่ถามว่าทำให้บทบาทและความหมายของพรรคไทยรักษาชาติหมดไปด้วยหรือไม่ และจะอธิบายอย่างไรกับการเกิดขึ้นของ “กลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย”
แม้การยุบพรรคจะเคยมีมาก่อนหน้านี้แล้วในประวัติศาสตร์การเมืองยุคใกล้ของไทย นับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมา
นั่นก็คือ การยุบพรรคไทยรักไทยในเดือนพฤษภาคม 2550
นั่นก็คือ การยุบพรรคพลังประชาชนในเดือนธันวาคม 2551
แต่กรณีของพรรคไทยรักไทยก็เกิดพรรคพลังประชาชน แต่กรณีของพรรคพลังประชาชนก็เกิดพรรคเพื่อไทยตามมา
ที่สำคัญก็คือ ยังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเหมือนเดิม
จากกรณีของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และมาถึงกรณีของพรรคไทยรักษาชาติ ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าการยุบพรรคเสมอเป็นเพียงเรื่องในทาง “กายภาพ”
นั่นก็คือ ในทางกฎหมายสามารถยุบพรรคได้
ขณะเดียวกัน ในทางเป็นจริงอำนาจอันรุนแรง แข็งกร้าวในทางกฎหมาย ก็ไม่สามารถทำให้ความคิดอันดำรงอยู่ภายในพรรคการเมืองนั้นแหลกละเอียดลงไปได้
มิเช่นนั้นพรรคพลังประชาชนคงไม่ชนะในเดือนธันวาคม 2550
มิเช่นนั้นพรรคเพื่อไทยคงไม่ชนะในการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 และมีความเชื่อมั่นในสังคมสูงเป็นอย่างยิ่งว่าจะชนะได้อีกในการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562
ยิ่งกรณีพรรคไทยรักษาชาติยิ่งสดๆ ร้อนๆ จาก “กลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย”
ปรากฏการณ์ “กลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย” แสดงออกอย่างเด่นชัดว่า แม้จะมีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ แต่กลุ่มนี้ก็ยังมีที่ยืนในพื้นที่ทางการเมือง
คะแนนส่วนหนึ่งของพวกเขาเทไปยังพรรคในปีก “ประชาธิปไตย”
ขณะเดียวกัน บทบาทของ “กลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย” คือการเดินสายพบประชาชนในห้วง 1 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งเสนอทางเลือกให้กับประชาชน
เท่ากับขั้ว “ประชาธิปไตย” ยังสำแดงบทบาทอย่างแข็งขัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :